ธนาคารโลกเตือนโควิดสะเทือนปากท้องคนไทย เอเชีย24ล้านคนจนลง
"ประเทศในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกและประเทศอื่นๆ ต้องต่อสู้กับโรคนี้ด้วยกัน"
ธนาคารโลก (World Bank) เปิดเผยรายงานผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19 ระบุว่าจะทำให้ประชาชนเกือบ 24 ล้านคนในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกต้องอยู่กับความยากจนต่อไปไม่สามารถถีบตัวองให้มีกินมีใช้ได้อย่างสบายๆ ได้ในปีนี้
ในรายงานที่เผยแพร่วันจันทร์ ธนาคารโลกยังเตือนว่าประชาชนในประเทศที่พึ่งพาอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบาด "จะมีความเสี่ยงสูงมากเป็นพิเศษ" ได้แก่ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย และในหมู่เกาะแปซิฟิกต่างๆ จะส่งผลต่อภาคการผลิตในเวียดนามและกัมพูชา และในกลุ่มคนที่เป็นแรงงานนอกระบบในทุกประเทศ
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีเศรษฐกิจนอกระบบที่ใหญ่มากในระดับสูงกว่า 40% ของขาดเศรษฐกิจที่แท้จริง ทำให้มีแรงงานนอกระบบเป็นจำนวนมาก และรัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือแล้ว แต่อาจจะต้องเพิ่มความช่วยเหลืออีกหลังมีคำเตือนเป็นพิเศษจากของธนาคารโลก
ธนาคารโลกเรียกร้องให้ภูมิภาคนี้ลงทุนในการขยายโรงงานด้านการดูแลสุขภาพและเครื่องมือแพทย์รวมถึงการใช้มาตรการที่เป็นนวัตกรรม เช่น การแปลงเตียงโรงพยาบาลธรรมดามาใช้เป็นห้องไอซียูและเร่งฝึกบุคคลากรทางการแพทย์
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีมาตรการทางการคลังที่กำหนดเป้าหมายช่วยเหลือชัดเจน เช่น เงินอุดหนุนค่าจ้างพนักงานที่ต้องลาป่วย ซึ่งจะช่วยการกักกันโรคให้มีประสิทธิภาพ และยังช่วยเหลือครอบครัวต่างๆ ด้วย
“นอกเหนือจากการดำเนินการระดับชาติที่เข้มแข็งแล้ว ความร่วมมือระหว่างประเทศที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นยังเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการต่อต้านภัยคุกคามที่รุนแรงนี้” Aaditya Mattoo หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกที่ธนาคารโลกกล่าว “ ประเทศในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกและประเทศอื่นๆ ต้องต่อสู้กับโรคนี้ด้วยกัน ให้เปิดการค้าขายต่อไปและประสานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค”
ธนาคารโลกกล่าวว่าความร่วมมือดังกล่าวอาจรวมถึงการเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการผลิตและการจัดหาเวชภัณฑ์และบริการและสร้างความมั่นคงทางการเงินหลังการแพร่ระบาดของไวรัส
ข้อเสนอแนะอีกประการหนึ่งคือการลดงื่อนไขสินเชื่อ เพื่อช่วยให้ครัวเรือนสามารถจับจ่ายใช้สอยได้สะดวกและเพื่อช่วยภาคธุรกิจเอาตัวรอดจากภาวะช็อคในขณะนี้ ทว่าธนาคารเตือนให้ติดตามโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด