posttoday

ปีนี้เผาจริงแน่! ไวรัสอู่ฮั่นทำเศรษฐกิจพังทั่ว

28 มกราคม 2563

ไม่เฉพาะจีนที่เศรษฐกิจพัง เพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไปจนถึงสิงคโปร์ก็พลอยทรุดไปด้วย

ไม่เฉพาะจีนที่เศรษฐกิจพัง เพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไปจนถึงสิงคโปร์ก็พลอยทรุดไปด้วย

สถานการณ์การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสที่มีต้นตอจากเมืองอู่ฮั่นของจีนยังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องจนสร้างความตื่นตระหนกและวิตกกังวลไปทั่วโลก โดยเฉพาะในแง่เศรษฐกิจ เนื่องจากจีนเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกและยังเป็นตัวขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก

จีน

- เรย์มอนด์ หยาง นักเศรษฐศาสตร์จาก ANZ Research เผยว่าเมืองอู่ฮั่นถือเป็นศูนย์กลางด้านการเดินทางและศูนย์การผลิตในภาคกลางของจีน หากทางการยืดระยะเวลาการปิดเมืองหลังจากหมดเทศกาลวันหยุดยาวช่วงตรุษจีนออกไปอีก จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

-รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศในช่วงวันหยุดตรุษจีนของจีนในปีนี้ทำได้เพียง 1 ใน 10 ของรายได้ปีที่แล้ว เนื่องจากประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปโรงภาพยนตร์ โดยมีภาพยนตร์ที่เตรียมเข้าฉายช่วงวันหยุดดังกล่าว 7 เรื่องต้องเลื่อนการฉาย

-จูเลียน อีแวนส์ พริตชาร์ด จากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน Capital Economics เตือนว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสจะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจจีนที่เติบโตช้าที่สุดในรอบเกือบ 3 ทศวรรษเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยการคมนาคมขนส่งและการอุปโภคบริโภค รวมถึงการค้าปลีกและร้านอาหาร จะได้รับผลกระทบมากกว่าธุรกิจอื่น

-แมทธิว เชอร์วูด หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของสถาบันการเงิน Perpetual ในออสเตรเลียประเมินว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสอาจหนักหน่วงกว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเซาร์สเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้นรัฐบาลต้องใช้มาตรการทางการเงินเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว อาทิ ลดภาษี

- Oxford Economics เผยว่า เมื่อครั้งโรคซาร์สระบาด เศรษฐกิจของจีนในไตรมาสที่ 2 ของปี 2003 เติบโตลดลงเหลือ 9.1% จากไตรมาสแรกที่เติบโต 11.1% แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจได้ชัดเจน

ญี่ปุ่น

-ดัชนี Nikkei ปิดตลาดที่ 127.80 จุด จากวันจันทร์ที่ปิดตลาดที่ 23,215.71 หรือลดลง 0.55% ถือว่าปิดตลาดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์

-ยาสึโตชิ นิชิมุระ รมว.กระทรวงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเตือนว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดกินระยะเวลานาน การส่งออก การผลิต และผลกำไรของผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับการอุปโภคบริโภคภายในของจีน เนื่องจากจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของญี่ปุ่น และยังเป็นตลาดสำคัญสำหรับสินค้าปลีกของญี่ปุ่นด้วย จากการสำรวจพบว่านักท่องเที่ยวจีนจีนมีสัดส่วนถึง 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น และใช้จ่าย 40% ของการใช้จ่ายขอนักท่องเที่ยวทั้งหมด

-การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ยังส่งผลเสียกับห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก และโรงแรม ซึ่งล้วนต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะในช่วงโกลเดนวีค หรือวันหยุดช่วงตรุษจีน

-เจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กรของ Isetan Mitsukoshi Holdings ผู้ให้บริการห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของญี่ปุ่นเผยว่า ห่วงว่ายอดขายและจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะลดลงหากยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่ที่น่ากังวลกว่าคือลูกค้าญี่ปุ่นจะเก็บตัอยู่ที่บ้าน ไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอยด้วย

-ฮิเดโอะ คุมะโนะ นักเศรษฐศาสตร์จาก Dai-ichi Life Research Institute ประเมินว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงจะทำให้จีดีพีของญี่ปุ่นลดลง 0.2%

เกาหลีใต้

-ดัชนีหุ้น Kospi ร่วง 3.6% ซึ่งถือว่าตกมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2018 โดยเฉพาะบริษัทที่ต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนที่ได้รับผลกระทบหนักสุด อาทิ บริษัทผลิตเครื่องสำอาง Amorepacific Corp., เอเจนซี่ท่องเที่ยว Hana Tour Service Inc. และธุรกิจโรงแรม Hotel Shilla Co. ที่หุ้นร่วงกว่า 10%

-สำนักข่าว Bloomberg วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจของเกาหลีจะได้รับผลกระทบในวงกว้าง เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของเกาหลีใต้ที่ต้องพึ่งพาการส่งออกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิ0

สิงคโปร์

-เฉินเจิ้งเซิง รมว.กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ เผยว่าสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เนื่องจากสถานการณ์ส่อเค้ายืดเยื้อ พร้อมทั้งย้ำว่ารัฐบาลจะพยายามช่วยเหลือธุรกิจท้องถิ่นและแรงงานที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส