บล็อกเกอร์รีวิวกระเป๋าเบื้องหลังแบรนด์หรู sold out ใน 6 นาที
ไม่ว่ากระเป๋าหรูแบรนด์ไหนที่อยาก sold out ในจีน ก็ต้องพึ่งฝีมือหนุ่ม 26 นามว่า มิสเตอร์แบ็ก
ไม่ว่ากระเป๋าหรูแบรนด์ไหนที่อยาก sold out ในจีน ก็ต้องพึ่งฝีมือหนุ่ม 26 นามว่า มิสเตอร์แบ็ก
พฤติกรรมอย่างหนึ่งของนักช็อปรุ่นใหม่ชาวจีนก็คือ จะต้องสรรหารีวิวสินค้าที่น่าเชื่อถือในโลกออนไลน์ก่อน แต่พวกเขาก็เริ่มเบื่อกับการทำการตลาดแบบดั้งเดิมที่ใช้คนดังเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า
นี่เป็นช่องทางให้คนธรรมดาๆ คนหนึ่งได้แจ้งเกิดเป็นอินฟลูเอนเซอร์ หรือคนที่มีอิทธิพลในโลกอินเทอร์เน็ต ที่แบรนด์สินค้าหรูดังๆ จากต่างประเทศรุมจีบให้มาร่วมกันกันหลายเจ้า
เรากำลังพูดถึงชายหนุ่มที่นักช็อปชาวจีนรู้จักในชื่อ มิสเตอร์แบ็ก (Mr.Bag) หรือชื่อจริงว่า เหลียงเทา แฟชั่นบล็อกเกอร์เบอร์ต้นๆ ของจีนที่ทำให้กระเป๋าแบรนด์เนมแบรนด์ดัง sold out ภายในไม่กี่นาที
ก่อนจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ มิสเตอร์แบ็กเป็นนักศึกษาการเงินของมหาวิทยาลัย University of Southern California ในลอสแองเจลิส ตามรอยเท้าของพ่อแม่ แต่จริงๆ แล้วเขากลับหลงใหลในกระเป๋าผู้หญิง
เวลาว่างของมิสเตอร์แบ็กส่วนใหญ่จึงไปจบอยู่ที่การเดินช็อปปิ้งในย่านสินค้าหรูอย่าง Rodeo Drive ในย่านเบเวอรีฮิลส์ เพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับกระเป๋าและตามเทรนด์แฟชั่น ก่อนที่จะเขียนบล็อกเกี่ยวกับกระเป๋าในโลกออนไลน์
มิสเตอร์แบ็กเริ่มเขียนรีวิวกระเป๋าและแนะนำเทรนด์ใหม่ๆ ลงในเหรินเหริน (เครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีนคล้ายกับเฟซบุ๊ค) โดยมีเพื่อนๆ ช่วยแชร์ ก่อนจะเริ่มมีฟอลโลเวอร์เพิ่มขึ้นๆ เพราะเนื้อหาตรงใจตี๋หมวยรุ่นใหม่ที่เริ่มเบื่อหน่ายกับคอนเทนต์และโฆษณาที่เน้นการขายจนเกินไป
กระทั่งในปี 2012 เจ้าตัวตัดสินใจเปิดบัญชีอย่างเป็นทางการในชื่อ Mr.Bag ทั้งในเว่ยป๋อและวีแชท ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่คนจีนนิยมใช้มากที่สุด เพื่อโพสต์บทความ
ความรอบรู้ในเรื่องแฟชั่นและตลาดกระเป๋าถือแบรนด์หรูของเหลียงเทาทำให้เขากลายเป็นคนที่นักช็อปชาวจีนนึกถึงมากที่สุดเมื่อต้องการข้อมูลในเชิงลึก
ภายใน 4 ปี Mr.Bag มีฟอลโลเวอร์กว่า 4 ล้านคน ขึ้นแท่นเป็นบล็อกเพียงหนึ่งเดียวที่มีอิทธิพลกับอุตสาหกรรมกระเป๋าถือของจีนมากที่สุด ซึ่งขณะนั้นเขายังอาศัยอยู่ในสหรัฐ แต่กลายเป็นคนดังที่บ้านเกิดไปแล้ว
ขณะที่เหลียงเทาเองไม่เคยคาดคิดว่าความหลงใหลในแฟชั่นกระเป๋าถือของผู้หญิงจะทำให้เขาเป็นแฟชั่นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของจีน
เจ้าตัวเผยว่า กว่าจะรู้ว่าตัวเองดังก็เมื่อตอนที่ Fendi แบรนด์ดังจากอิตาลีเชิญไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ที่มิลาน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่อินฟลูเอนเซอร์จีนได้นั่งชมโชว์ของ Fendi จากที่นั่งแถวหน้า
ปัจจุบันนี้มิสเตอร์แบ็กมีฟอลโลเวอร์ในเว่ยป๋อกว่า 6.14 ล้านคน และในวีแชทอีกเกือบ 1 ล้านคน
เหลียงเทาไม่ได้แค่เขียนบล็อกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เขายังผลิตกระเป๋าหรูที่เป็นที่ต้องการของสาวๆ ด้วย
ความที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลนี่ทำให้เจ้าตัวได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น Givenchy, Burberry, Fendi, Louis Vuitton, Tod’s
การร่วมงานนนี้ไม่ใช่แค่เอาชื่อของเขาไปแปะเท่านั้น มิสเตอร์แบ็กยังมีส่วนร่วมในการออกแบบและแนะนำสีและรูปทรงที่เหมาะกับชาวจีนด้วย
และทุกครั้งก็สร้างปรากฏการณ์ sold out ตลอด เพราะเขาเข้าใจรสนิยมของคนจีนรุ่นใหม่ดีที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า Givenchy มูลค่ารวม 1.2 ล้านหยวนที่หมดเกลี้ยงภายใน 12 นาที หรือกระเป๋า Tod’s ใบละ 10,800 หยวน มูลค่ารวม 3.24 ล้านหยวน ที่หมดภายใน 6 นาที
หลายคนอาจจะมองว่ากระเป๋าถือผู้หญิงไม่น่าจะเป็นเรื่องถนัดของผู้ชาย
แต่ชายหนุ่มวัย 28 ปีกลับมองว่าความเป็นผู้ชายของเขาเป็นข้อดี เพราะสาวๆ มองว่าผู้ชายให้คำแนะนำตามความเป็นจริง ช่วยให้ผู้หญิงตัดสินใจเลือกซื้อกระเป๋าโดยใช้เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์
มิสเตอร์แบ็กยกตัวอย่างว่า เขาจะแยกประเภทกระเป๋าให้ชัดเจนแล้วแนะนำสาวๆ ว่าชิ้นไหนใช้ได้นาน ใช้ได้หลายโอกาส และดูโดดเด่น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์กับนักช็อปที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อกระเป๋าใบไหนอย่างมาก
จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของมิสเตอร์แบ็กคือ ข้อมูลที่เขาเขียนลงบล็อกและการออกแบบกระเป๋านั้นเขาเขียนขึ้นในฐานะที่ตัวเขาเองก็เป็นนักช็อปปิ้งกระเป๋าหรูและเป็นคนรุ่นใหม่เช่นเดียวกับลูกค้าคนอื่นๆ
จึงไม่แปลกที่จะมีแฟนคลับติดตามมากมายและกระเป๋าที่มิสเตอร์แบ็กออกแบบก็ sold out ภายในไม่กี่นาที
เมื่อปี 2017 กลุ่มธนาคาร BNP Paribas จัดอันดับให้มิสเตอร์แบ็กเป็นแฟชั่นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอิทธิพลเป็นอันดับ 3 ของจีน
ทว่าหากพูดถึงเรื่องกระเป๋า มิสเตอร์แบ็กคือเบอร์ 1 เท่านั้น