posttoday

ชายผู้อยู่เบื้องหลังการควบคุมตัวชาวมุสลิม 1 ล้านคน

01 ธันวาคม 2562

เอกสารลับที่เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของพรรคคอมมิวนิสต์ จูไห่หลุน (Zhu Hailun) มีบทบาทสำคัญในการวางแผนและดำเนินการกวาดล้างชาวอุยกูร์กว่า 1 ล้านคนเข้าไปอยู่ในค่ายกักกัน

เอกสารลับที่เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของพรรคคอมมิวนิสต์ จูไห่หลุน (Zhu Hailun) มีบทบาทสำคัญในการวางแผนและดำเนินการกวาดล้างชาวอุยกูร์กว่า 1 ล้านคนเข้าไปอยู่ในค่ายกักกัน

หลังจากการจลาจลนองเลือดทางเชื้อชาติสั่นสะเทือนภูมิภาคทางตะวันตกของจีนเมื่อทศวรรษที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์ก็หันมาใช้สมาชิกระดับนำของพรรคที่มีความสามารถอันหาได้ยากเพื่อกู้คืนระเบียบในภูมิภาคนี้ เขาเป็นเจ้าหน้าที่จีนชาวฮั่นที่พูดอุยกูร์อันเป็นภาษาของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมเตอร์กอย่างคล่องแคล่ว

ตอนนี้เอกสารลับที่เพิ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า จูไห่หลุนมีบทบาทสำคัญและอย่างเป็นทางการในการวางแผนและดำเนินการกวาดล้างชาวอุยกูร์กว่า 1 ล้านคนเข้าไปอยู่ในค่ายกักกัน

เอกสารดังกล่าวตีพิมพ์ในปี 2017 ลงนามโดยจูไห่หลุน ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมาธิการการเมืองและกฎหมายของพรรคคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคซินเจียง นักภาษาศาสตร์อุยกูร์คนหนึ่งจำได้ว่าเป็นลายเซ็นของจูไห่หลุน เนื่องจากนักภาษาศาสตร์อุยกูร์คนนี้้เคยทำงานเป็นนักแปลในเมืองคัชการ์ ตอนที่จูเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นนำของเมือง

"เมื่อผมเห็นเอกสารเหล่านั้น ผมรู้ว่าพวกมันมีความสำคัญ" อับดูเวลี อายุป นักภาษาศาสตร์กล่าว "เขาเป็นคนที่ต้องการควบคุมอำนาจทุกอย่างไว้ในกำมือของเขา" ตอนนี้ อายุป อยู่ในต่างแดน

ตอนนี้ จู วัย 61 ยังไม่ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวหลังจากถูกร้องขอไปหลายครั้งแล้ว

จูไห่หลุน เป็นที่เกลียดชังในหมู่ชาวอุยกูร์ที่เขาปกครองหลายปีก่อนที่จะมีการปราบปรามในซินเจียง แม้ว่าเขาจะคุ้นเคยกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดก็ตาม

เขาเกิดในปี 1958 ในเขตชนบทของมณฑลเจียงซูริมชายฝั่งของจีน ในช่วงที่เขาเป็นวัยรุ่น เกิดการปฏิวัติทางวัฒนธรรมที่สับสนอลหม่านของจีน จูถูกส่งตัวไปยังเขตคาร์กิลิกซึ่งอยู่ลึกลงไปในเขตที่อยู่ของชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ของซินเจียง หลังจากนั้นจูก็ไม่เคยจากซินเจียงเลย

จูเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 1980 และไต่เต้าในระบบราชการของซินเจียง โดยรับตำแหน่งในเมืองขนาดใหญ่ ในทศวรรษที่ 90 เขาพูดภาษาอุยกูร์อย่างคล่องแคล่ว ถึงขนาดที่สามารถแก้ไขความผิดพลาดของนักแปลประจำตัวระหว่างการประชุม

"ถ้าคุณไม่เห็นหน้าเขาคุณจะนึกไม่ออกเลยว่าเขาเป็นคนจีนฮั่น เมื่อเขาพูดอุยกูร์เขาพูดเหมือนอุยกูร์ เพราะเขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับคนอุยกู้'' นักธุรกิจชาวอุยกูร์พลัดถิ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศตุรกีกล่าว แต่เขาปฏิเสธที่จะเผยชื่อเพราะกลัวจะถูกตามล่า

นักธุรกิจรายนี้ได้ยินชื่อจูไห่หลุนครั้งแรกจากเพื่อนชาวอุยกูร์ที่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ขณะทำธุรกิจ เพื่อนของเขาประทับใจและบรรยายว่าจูเป็นคนที่มีความสามารถมากหากเทียบกับราชการของชาวฮั่นที่ชาวอุยกูร์ทำงานด้วย แต่หลังจากหลายปีที่ได้ติดตามดูจูไห่หลุนรับหน้าที่ปราบปรามและการจับกุมคนท้องถิ่น ในไม่ช้านักธุรกิจก็เริ่มตาสว่าง

"เขาเป็นสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เป็นคนที่ฉลาดแกมโกงจริงๆ ชนิดทำเอาคุณหัวหมุนได้" นักธุรกิจกล่าว "เขาเป็นตัวละครสำคัญของนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์ในการควบคุมซินเจียงตอนใต้ ''

อายุป นักภาษาศาสตร์ได้พบกับจูไห่หลุนในปี 1998 เมื่อเขามาตรวจสอบเมืองที่เขาอาศัยอยู่ จูไห่หลุนมีชื่อเสียงเลื่องลือเนื่องจากมักจะสั่งการบุกค้นบ้านชาวอุยกูร์ตอนตี 3 ทำให้คนท้องถิ่นร้องเพลงพื้นบ้านที่โด่งดังที่ชื่อ "จูไห่หลุนกำลังจะมา" เพื่อล้อเลียนท่าทีอันแข็งกร้าวไม่ยืดหยุ่นของเขา

"เขาออกคำสั่งกับชาวนาชาวไร่เหมือนพวกนั้นเป็นทหาร พวกเราทุกคนเป็นทหารของเขา'' อายุปกล่าว "ชาวจีนฮั่นควบคุมบ้านเกิดของเรา แต่เรารู้ว่าเราต้องยืนหยัดในสถานที่ของเรา ''

ครั้งหนึ่งในการประชุม อายุปกล่าวว่า จูไห่หลุนบ่นกับเจ้าหน้าที่ของเมืองว่าชาวนาชาวไร่ขัดคำสั่งให้ปลูกพืชผลบางชนิดและกำลังสนับสนุนกลุ่มเคร่งศาสนาหัวรุนแรง ทันใดนั้นเขาก็ขัดจังหวะด้วยการเรียกคัมภีร์อัลกุรอาน คัมภีร์ของศาสนาอิสลามว่า "ไร้สาระที่สุดอย่างที่สุด''

และเขายังกล่าวว่า "พระเจ้าของพวกแกคือขยะดีๆ นี่เอง" คำพูดของจูทำให้ที่ประชุมตกใจจนนิ่งเงียบ

อายุปกล่าวว่า จูไห่หลุนเปรียบเทียบวัฒนธรรมอุยกูร์ว่าเหมือนกับอัฟกานิสถานซึ่งจำเป็นต้องปรับปรุงให้ทันสมัย

"เขาเห็นว่าตัวเองเป็นผู้ช่วยให้รอด'' อายุปกล่าว "เขาคิดว่าเขามาที่นี่เพื่อนำความทันสมัย ชีวิตสมัยใหม่ อุดมการณ์สมัยใหม่มาสู่ชาวอุยกูร์''

หลายเดือนหลังจากการจลาจลในวันที่ 5 กรกฎาคม 2009 ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนในเมืองอูหลู่มู่ฉี เมืองหลวงของซินเจียง จูไห่หลุนถูกทาบทามมารับตำแหน่งเลขาฯ เขตปกครองคนใหม่ ตอนแรกรัฐบาลกลางที่ปักกิ่งเกือบจะย้ายเจ้าหน้าที่จากมณฑลอื่นมารับหน้าที่นี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการฝึกเจ้าหน้าที่ในพรรคเพื่อรับตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางที่รับหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงในอูหลู่มู่ฉีสรุปว่า จูไห่หลุนมีความแข็งแกร่งกว่าเจ้าหน้าที่ที่อาวุโสมากกว่า และจำเป็นที่จะต้องให้เขารับหน้าที่นี้

"พวกนั้นไม่พอใจสุดๆ'' อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการชาวอุยกูร์ที่ปฏิเสธที่จะเผยเพราะกลัวถูกตามล่าตัว "เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เป็นเพราะคนที่นี่บอกว่าเขามีผลงานโดดเด่นในการรักษาเสถียรภาพ เขาจึงถูกดันขึ้นมา แลัวตั้งเป็นเลขาธิการพรรคฯ สาขาอูหลู่มู่ฉี ''

เมื่อได้รับการแต่งตั้ง จูไห่หลุนใช้เวลาสามวันขลุกอยู่ในกองบัญชาการตำรวจของเมือง โดยประกาศว่าจะกระชับอำนาจของรัฐบาล (เพื่อปราบจลาจล) ตำรวจตะลุยผ่านย่านที่อยู่อาศัยของชาวอุยกูร์ พร้อมปืนไรเฟิลและจับกุมผู้ต้องสงสัยนับร้อยคนมาดำเนินคดี และมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดนับหมื่นกล้อง

แต่แทนที่จะเยียวยาความแตกแยกของกลุ่มชาติพันธุ์ ในเดือนเมษายน 2014 การกวาดล้างยิ่งรุนแรงขึ้น เมื่อประธานาธิบดี สีจิ้นผิง เดินทางมาถึงซินเจียงเพื่อเยี่ยมชมของรัฐ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังสีจิ้นผิงเดินทางกลับ ก็เกิดระเบิดที่สถานีรถไฟอูหลู่มู่ฉี มีผู้เสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บ 79 คน

หลังจากเหตุการณ์นั้น สีจิ้นผิง สาบานว่าจะกระชับพื้นที่ให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น

ในปี 2016 รัฐบาลกลางได้แต่งตั้งผู้นำคนใหม่ของซินเจียง คือเฉินเฉวียนกั๋ว ซึ่งชื่อของเขานั้นมีความหมายว่า "ทั่วประเทศ'' เฉินได้สร้างชื่อเสียงในฐานะเจ้าหน้าที่ที่ใช้ไม้แข็งอย่างหนักหน่วง เป็นผู้บุกเบิกกลยุทธ์การเฝ้าระวังแบบดิจิตอลในทิเบต

จูไห่หลุน เป็นมือขวาของเขา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยและฝ่ายบังคับใช้กฎหมายในภูมิภาค จูไห่หลุนได้วางรากฐานระบบเฝ้าระวังของรัฐที่สามารถระบุเป้าหมายที่จะจับกุมได้โดยอัตโนมัติ เขาสำรวจพื้นที่เพื่อตรวจสอบศูนย์กักกัน สถานีตำรวจ จุดตรวจ และส่วนประกอบอื่นๆ ของอุปกรณ์เฝ้าระวังและการกักกันที่นำมาใช้ใหม่

หลังจากการแต่งตั้งเฉิน ชาวอุยกูร์ก็หายตัวไปหลายพันคน เอกสารที่รั่วไหลออกมาแสดงให้เห็นว่า จูไห่หลุนเป็นผู้ควบคุมการจับกุมครั้งใหญ่ ลงนามในคำสั่งให้ตำรวจใช้กล้องวงจรปิดดิจิตอล เพื่อตรวจสอบผู้คนที่เดินทางไปต่างประเทศโดยใช้แอพพลิเคชั่นมือถือ หรือตรวจสอบญาติของ "บุคคลที่น่าสงสัย" จากการรายงานของสถานีโทรทัศน์ของรัฐยังแสดงให้เห็นว่า จูยังเดินสายตรวจสอบค่ายในซินเจียง จุดตรวจและสถานีตำรวจอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ปีที่แล้ว จูไห่หลุนก้าวลงจากตำแหน่งหลังจากอายุ 60 ปีซึ่งสอดคล้องกับแนวปฏิบัติดั้งเดิมของพรรคคอมมิวนิสต์ ส่วนเฉินยังอยู่ในตำแหน่ง

"เฉินเฉวียนกั๋วมาในนามของพรรค" นักธุรกิจอุยกูร์กล่าว "ส่วนจูรู้วิธีการลงมือ รู้ว่าจะจับใคร และต้องทำอะไร''

แปลจาก "The man behind China's detention of 1 million Muslims" โดย AP

ภาพจาก news.sina.com.cn