ทรัมป์ลงนามกฎหมายฮ่องกง
ปธน.ทรัมป์ออกโรงป้องฮ่องกง ลงนามกฎหมายสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงแล้ว แม้จีนเตือนสหรัฐเตรียมรับผลที่จะตามมา
ปธน.ทรัมป์ออกโรงป้องฮ่องกง ลงนามกฎหมายสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงแล้ว แม้จีนเตือนสหรัฐเตรียมรับผลที่จะตามมา
วันนี้ (28 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตันดี.ซี. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามใช้กฎหมายสนับสนุนสิทธิและประชาธิปไตยในฮ่องกงแล้วอย่างเป็นทางการและจะมีผลบังคับใช้ในทันที
กฎหมายดังกล่าวมาจากการที่ทั้งสภาผู้แทนฯและวุฒิสภาเห็นชอบร่างบัญญัติมาตรการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง อันเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินมาตรการทางการทูตและการลงโทษทางเศรษฐกิจกับฮ่องกง จากเหตุที่ฮ่องกงเกิดการประท้วงรุนแรงมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน
กฎหมายดังกล่าวจะมีผลต่อฮ่องกงอย่างไร?
กฎหมายฉบับนี้มุ่งตรวจสอบว่า รัฐบาลจีนในฐานะผู้ถือแนวคิด 1 ประเทศ 2 ระบบ นั้นยังคงทำตามบัญญัติดังกล่าวหรือไม่ รวมถึงมีการริดรอนต่อสิทธิของชาวฮ่องกงภายใต้แนวคิดดังกล่าวหรือไม่ โดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐจะต้องทำรายงานประเมินประเด็นดังกล่าวอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ว่าฮ่องกงยังคงอยู่ในสถานะ 1 ประเทศ 2 ระบบที่ให้สิทธิเสรีภาพแก่ชาวฮ่องกง รวมถึงสถานะของฮ่องกงยังคงเป็นศูนย์กลางทางการเงินในเอเชียอยู่หรือไม่ พื่อให้เป็นไปตามกฎหมายนโยบายสหรัฐ-ฮ่องกง ฉบับปี 1992
หากพบว่ามีการละเมิดในเรื่องดังกล่าว ทางสหรัฐก็จะมีมาตรการดำเนินการคว่ำบาตรในด้านต่างๆต่อเจ้าหน้าที่จีนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
Hong Kong Human Rights and Democracy Act and PROTECT Hong Kong Act, legislation supporting the Hong Kong protestors, were both signed into law by President Trump today per the White House. pic.twitter.com/bBqLJ9Ii0j
— Craig Caplan (@CraigCaplan) November 27, 2019
ในแถลงการณ์ของทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า การที่ผู้นำสหรัฐลงนามกฎหมายดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้นั้น เป็นไปด้วย"ความเคารพ" ต่อประธานาธิบดีสีจิ้นผิง และชาวฮ่องกงทุกคน ว่าจะสามารถหาทางออกและยุติความขัดแย้งร่วมกันได้
อย่างไรก็ดี ก่อนการลงนามกฎหมายฉบับนี้ ทางการจีนได้ออกโรงเตือนรัฐบาลสหรัฐก่อนหน้านี้ว่า ให้ระวังผลกระทบที่จะตามมา โดยเฉพาะในแง่ของผลกระทบทางการค้าและการเจรจาการค้าระหว่างสองชาติ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังลงนามในกฎหมายลูกว่าด้วยการห้ามบริษัทสหรัฐส่งออกสินค้าทางทหารและอุปกรณ์ปราบจลาจล ซึ่งรวมถึงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง แก่ทางการฮ่องกง เพื่อเป็นไปตามการพิทักษ์สิทธิมนุษยชนในฮ่องกง
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังลงนามในกฎหมายห้ามผู้ประกอบการของสหรัฐส่งออกสินค้าทางทหารและอุปกรณ์ในการควบคุมฝูงชน ที่รวมถึงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ให้แก่สำนักงานตำรวจฮ่องกง เพื่อพิทักษ์สิทธิมนุษยชนให้แก่พลเมืองฮ่องกง