posttoday

การลงทุนของจีนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ กระตุ้นศก.ไม่ได้ผล

14 พฤศจิกายน 2562

ความพยายามของรัฐบาลจีนในการยับยั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจ อาจะไม่ประสบความสำเร็จ

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลงอีกในเดือนตุลาคม เป็นสัญญาณว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล้มเหลวในอันที่จะเพิ่มกำลังการผลิตและการลงทุน ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐ และอุปสงค์ในประเทศที่ลดลง

จากตัวเลขล่าสุดพลว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4.7% จากปีก่อนหน้า (เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 5.4%) ส่วนยอดค้าปลีกขยายตัว 7.2% (เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 7.8%) จะเห็นว่าแม้จะเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้่นน้อยกวาที่คาดการณ์ไว้

การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรชะลอตัวลง 5.2% ในช่วง 10 เดือนแรกเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 5.4% เป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1998

ข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าความพยายามของรัฐบาลจีนในการยับยั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจ อาจะไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกันจีนกำลังเผชิญปัจจัยด้านลบในประเทศ และความไม่แน่นอนจากสงครามการค้ากับสหรัฐ

ธนาคารประชาชนของจีน (PBC) ลดค่าต้นทุนค่าใช้จ่ายสำหรับกองทุนธนาคารต่างๆ เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2016 เมื่อต้นเดือน โดยปล่อยเงินกู้ 4 แสนล้านหยวน และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะหนี้และดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น แต่อุปสงค์ยังคงอ่อนแอ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์ของจีนและเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า สามารถตกลงที่จะระงับการขึ้นภาษีบางส่วนหากข้อตกลงระยะที่หนึ่งผ่านความเห็ยชอบ แต่เมื่อวันศุกร์สถานการณ์กลับแย่ลง เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่ายังไม่ได้เห็นชอบกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ สงครามการค้าได้ดำเนินมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และหากสถานการณ์เลวร้ายลงอีก อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

“สถานการณ์ยังค่อนข้างรุนแรงและเศรษฐกิจของจีนยังคงเผชิญกับแรงกดดันที่ฉุดลงให้ต่ำ (แต๋) ไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจของจีนกำลังผ่านจุดต่ำสุด และสถานการณ์กรณีที่ดีที่สุดคือการรักษาสภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้”เบ็ตตี้ หวาง นัก เศรษฐศาสตร์อาวุโสของ ANZ Bank Group กล่าว