posttoday

ไข้หวัดหมูระบาดหนัก เอเชียเสี่ยงขาดแคลนเนื้อหมู

19 กันยายน 2562

หลายประเทศในเอเชียฆ่าหมูไปแล้วกว่า 5 ล้านตัวหลังโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาดหนัก ส่งผลให้เนื้อสุกรขาดแคลน ดันราคาสูงขึ้น

หลายประเทศในเอเชียฆ่าหมูไปแล้วกว่า 5 ล้านตัวหลังโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาดหนัก ส่งผลให้เนื้อสุกรขาดแคลน ดันราคาสูงขึ้น ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยกระทบหนักสุด

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานว่าขณะนี้หลายประเทศในเอเชีย อาทิ จีน เกาหลีใต้ มองโกเลีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ กำลังเผชิญวิกฤตโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาดรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน เวียดนาม และมองโกเลียที่ต้องฆ่าหมูหรือมีหมูตายไปแล้วกว่า 10% ของประชากรหมูทั้งหมดของแต่ละประเทศ

จีนเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ถูกโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเล่นงาน โดยกระทรวงเกษตรและชนบทยืนยันการแพร่ระบาดครั้งแรกที่มณฑลเหลียวหนิงเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ปีที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นมาก็ระบาดไปอีก 32 มณฑล จนทางการต้องสั่งฆ่าหมูไปแล้วกว่า 1.17 ล้านตัว และตัวเลขอาจจะพุ่งไปถึง 200 ล้านตัว

สถานการณ์การระบาดในแถบประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างเวียดนามก็หนักไม่แพ้จีน นับตั้งแต่พบการระบาดเมื่อเดือน ก.พ.เป็นต้นมา โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรแพร่กระจายไปทั่วทั้ง 63 จังหวัดของเวียดนามจนต้องฆ่าหมูไปแล้วราว 4.7 ล้านตัว ส่วนกัมพูชาพบการระบาดใน 5 จังหวัดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.

ด้านลาวพบการระบาดครั้งแรกที่แขวงสาละวันเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานสุกรติดเชื้อ 94 ครั้งใน 15 จากทั้งหมด 18 จังหวัด พบหมูตายหรือถูกฆ่ากว่า 25,000 ตัว ขณะที่ทางการฟิลิปปินส์ยืนยันว่าพบการติดเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรครั้งแรกของประเทศเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้กำลังแพร่ระบาดอยู่ใน จ.รีซัลและบูลากัน ใกล้กับกรุงมะนิลา ทางการสั่งกำจัดหมูแล้ว 7,952 ตัว ล่าสุดเมียนมาพบการติดเชื้อเมื่อต้นเดือนที่แล้วในรัฐฉาน

จีนเป็นประเทศที่บริโภคและผลิตเนื้อหมูรายใหญ่ที่สุดของโลก จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐจีนเลี้ยงหมูราว 433 ตัวทั่วประเทศ และเมื่อปีที่แล้วหมูเหล่านี้หายไปจากตลาดกว่า 100 ล้านตัวจากทั้งการตายจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและการที่เกษตรกรไม่เลี้ยงหมูชุดใหม่ทดแทนหมูที่ตาย ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูในตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 70%

ไม่เพียงราคาเนื้อหมูสูงขึ้นเท่านั้น วิกฤตโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรยังก่อให้เกิดภาวะเนื้อหมูขาดตลาด จนทางการท้องถิ่นอย่างน้อย 4 แห่ง คือ ไห่หนาน ฟูเจี้ยน กวางซีจ้วง และจี้หนานซึ่งมีประชากรรวมกันราว 130 ล้านคน นำเนื้อหมูแช่แข็งสำรองออกสู่ตลาดเพื่อแก้ปัญหาเนื้อหมูขาดแคลนและราคาสูง และล่าสุดรัฐบาลเพิ่งประกาศว่าจะนำเนื้อหมูแช่แข็งสำรองของประเทศออกมาอีก 10,000 ตัน

นอกจากนี้ จีนยังต้องนำเข้าเนื้อหมูแช่แข็งจากต่างประเทศโดยเฉพาะการนำเข้าจากยุโรปที่เพิ่มขึ้น 37 % ระหว่างเดือน ม.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งจากสหรัฐ จากข้อมูลของกรมศุลกากรจีนพบว่าเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาจีนนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐสูงสุดในรอบ 1 ปี ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนที่จีนจะเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเป็น 62% เมื่อปีที่แล้วเสียอีก

อย่างไรก็ดี จางหลี่เฉิน จากบริษัทลงทุนด้านการเกษตรเฮยหลงเจียงซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ มองว่า แม้จีนจะนำเนื้อหมูแช่แข็งสำรองของประเทศซึ่งมีอยู่ราว 990,000 ตันออกมา รวมกับเนื้อหมูนำเข้าก็ยังไม่เพียงพอกับการบริโภคภายในประเทศ เพราะยังมีส่วนต่างอีกถึง 10 ล้านตัน เมื่อเทียบกับผลผลิตเนื้อหมูของปีก่อนที่ 54.03 ล้านตัน

นอกจากจีนแล้ว การตายของหมูยังกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารในประเทศเพื่อนบ้านของไทยด้วย โดยเฉพาะในเวียดนามที่มีการบริโภคเนื้อหมู 75% ของการบริโภคเนื้อสัตว์ ทั้งหมด ขณะที่ในกัมพูชาอาจเลวร้ายกว่า นักวิทยาศาสตร์ของรัฐแสดงความกังวลว่าหากไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ หมูในกัมพูชาอาจตายทั้งประเทศ

การระบาดของเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรยังมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อตลาดเนื้อหมูโลกด้วย เพราะความต้องการที่เพิ่มขึ้นของจีน จะทำให้ราคาเนื้อหมูทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย