posttoday

สหรัฐอ้างโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ มาจากอิหร่าน

18 กันยายน 2562

สหรัฐโบ้ยอิหร่าน อ้างมีหลักฐานโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ

สหรัฐโบ้ยอิหร่าน อ้างมีหลักฐานโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ

รอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐรายหนึ่งได้เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า จากเหตุการณ์โจมตีโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่สองแห่งของบริษัท ซาอุดิ อรามโก รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานขนาดใหญ่ของประเทศนั้นมีต้นทางการโจมตีมาจากทางฝั่งอิหร่าน

เจ้าหน้าที่ทั้งสามเผยกับรอยเตอร์ว่า พบหลักฐานการโจมตีที่มีการใช้ทั้งมิสไซล์และโดรนควบคุมระยะไกลที่มีความซับซ้อนกว่าที่เคยคาดไว้ โดยพบว่าถูกยิงมาจากฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐไม่ได้เปิดเผยถึงหลักฐานดังกล่าว โดยระบุว่าหากเปิดเผยหลักฐานต่อสาธารณะจะยิ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันไปยังรัฐบาลวอชิงตันและรัฐบาลริยาดให้ใช้มาตรการทางทหารตอบโต้

สหรัฐอ้างโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ มาจากอิหร่าน

หลังเหตุโจมตีดังกล่าวทางการอิหร่านได้ปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นการโจมตีครั้งนี้

รายงานของรอยเตอร์ยังสอดคล้องกับรายงานของเจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งที่เปิดเผยกับสำนักข่าว CBS ที่ระบุเช่นกันว่าการโจมตีครั้งนี้มีการใช้โดรนควบคุมระยะไกลประสิทธิภาพสูงและมิสไซล์ในการโจมตี โดยยิงมาจากฝั่งอิหร่านโดยอาจถูกยิงมาจากเหนือหรือทางตะวันตกเฉียงเหนือ

 

สหรัฐอ้างโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯ มาจากอิหร่าน

ซึ่งในส่วนพิกัดการยิงนี้ไม่สอดคล้องกับรายงานจากรอยเตอร์ในข้างต้น โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐยังอธิบายอีกว่าเหตุที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซาอุดิอาระเบียไม่ได้ป้องกันการโจมตีดังกล่าว เนื่องจากพวกเขาตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธที่จะยิงขึ้นจากฝั่งเยเมนอันเป็นที่ตั้งส่วนใหญ่ของกบฏฮูตี

ทั้งนี้ สำหรับความเสียหายของโรงกลั่นน้ำมันและคลังเก็บน้ำมันของบริษัท ซาอุดิอรามโกนั้น ทางเจ้าชายอับดุลอาซิซบินซาลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุฯคาดว่า จะดำเนินการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายของโรงกลั่นทั้งสองจนสามารถกลับมาผลิตน้ำมันป้อนเข้าสู่ระบบได้อีกครั้งในปลายเดือนกันยายน แต่ในขณะนี้โรงกลั่นทั้งสองกลับมาผลิตน้ำมันได้ตามปกติแล้ว โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนอื่นทดแทนวันละ 11 ล้านบาร์เรล ภายในสิ้นเดือนนี้ และจะเพิ่มเป็นวันละ 12 ล้านบาร์เรล ในเดือนพฤศจิกายน