posttoday

ตุรกีจะจมเมืองโบราณ 12,000 ปี หลังเปิดใช้เขื่อน

13 กันยายน 2562

เมืองโบราณเก่าแก่ถึง 12,000 ปี ริมฝั่งแม่น้ำไทกริสกำลังจะสูญหายตลอดกาล หลังเขื่อนในพื้นที่กำลังจะสร้างเสร็จ

เมืองโบราณเก่าแก่ถึง 12,000 ปี ริมฝั่งแม่น้ำไทกริสกำลังจะสูญหายตลอดกาล หลังเขื่อนในพื้นที่กำลังจะสร้างเสร็จ

เมือง Hasankeyf ซึ่งเป็นเมืองโบราณเก่าแก่อายุนับหมื่นปีทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ห่างจากเมืองบาตมันราวๆ ครึ่งชั่วโมง ริมฝั่งแม่น้ำไทกริสกำลังจะสูญหายไปตลอดกาล หากมีการเปิดใช้งานเขื่อนผลิตไฟฟ้า Il?su Dam ซึ่งมีกำหนดในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ตุรกีจะจมเมืองโบราณ 12,000 ปี หลังเปิดใช้เขื่อน

เมือง Hasankeyf ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงมีมนุษย์ตั้งชุมชนอาศัยอาศัยอยู่จนถึงปัจจุบัน หลายส่วนของเมืองมีการพบทั้งหลุมฝังศพ ถ้ำซึ่งเคยถูกใช้เป็นที่พักอาศัย ร้านค้าที่เคยขายสินค้าในเส้นทางสายไหมยุคโบราณ มัสยิดและโบสถ์คริสต์หลายแห่ง เนื่องจากเมืองแห่งนี้สามารถพบร่องรอยแห่งอารยธรรม เมโสโปเตเมีย โรมัน ไบเซนไทน์ มองโก อาหรับ และออตโตมัน

ทางการตุรกีได้ขีดเส้นตายให้ชาวบ้านภายในเมืองและส่วนที่จะได้รับผลกระทบต้องอพยพออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 8 ตุลาคมนี้

ตุรกีจะจมเมืองโบราณ 12,000 ปี หลังเปิดใช้เขื่อน

สำหรับเขื่อน Il?su Dam เป็นโครงการเขื่อนสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าและเพื่อปักปันน้ำสำหรับการเกษตรที่รัฐบาลตุรกีอนุมัติให้ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2006 แต่ด้วยโครงการเผชิญปัญหาหลายประการทั้งงบประมาณการก่อสร้าง การถูกสอบสวนประเด็นสิ่งแวดล้อม ผลกระทบทางระบบนิเวศและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ รวมถึงความเสียหายทางแหล่งโบราณคดีเหล่านี้ด้วย ส่งผลให้โครงการล่าช้ามาเป็นเวลาหลายปี

 

ตุรกีจะจมเมืองโบราณ 12,000 ปี หลังเปิดใช้เขื่อน

เมื่อสร้างเสร็จและเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ เขื่อนแห่งนี้จะช่วยป้องกันปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรในหลายพื้่นที่ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับการจมหายไปของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และทางศาสนาอีกนับร้อยแห่งรวมถึงประชาชนในเมือง Hasankeyf และใกล้เคียงอีกราว 80,000 คนต้องได้รับผลกระทบ

ตุรกีจะจมเมืองโบราณ 12,000 ปี หลังเปิดใช้เขื่อน

อย่างไรก็ดี ทางรัฐบาลได้สร้างแหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับชาวเมืองที่จะได้รับผลกระทบราว 700 หลังคาเรือนที่ชื่อว่าเมือง new Hasankeyf ห่างจากเมืองเดิมราว 3 กิโลเมตร

ที่ผ่านมากลุ่มนักเคลื่อนไหวพยายามเสนอเมืองแห่งนี้ให้ถูกขึ้นทะเบียนคุ้มครองโดย Unesco แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะกระทรวงวัฒนธรรมของตุรกีต้องเป็นผู้เสนอเอง โดยพวกเขาบอกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายในวันที่ 8 ตุลาคมนี้พวกเขาจะทำในทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเมืองแห่งนี้ไว้ให้ได้

Photo : Deutsche welle / AFP