โจโกวีฝันยึดโมเดลซิลิคอนวัลเลย์ ปั้นเมืองหลวงใหม่เกาะบอร์เนียว
อินโดฯเสียงแตกย้ายเมืองหลวง กังขาเอื้อนายทุน ด้านโจโกวียึดโมเดลปั้นเมืองหลวงใหม่เทียบชั้นซิลิคอนวัลเลย์
อินโดฯเสียงแตกย้ายเมืองหลวง กังขาเอื้อนายทุน ด้านโจโกวียึดโมเดลปั้นเมืองหลวงใหม่เทียบชั้นซิลิคอนวัลเลย์
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซียได้เผยผ่านสื่อเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เมืองหลวงแห่งใหม่ของประเทศในจังหวัดกาลิมันตันตะวันออก บนเกาะบอร์เนียวนั้น จะยึดแผนการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองหลวงแห่งเทคโนโลยีและธุรกิจดิจิตอลของประเทศ โดยยึดแบบอย่างเขตซิลิคอนวัลเลย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ที่เต็มไปด้วยบรรดาบริษัทด้านเทคโนโลยีสำคัญระดับโลกหลายแห่ง
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อของเมืองหลวงแห่งใหม่นี้อย่างเป็นทางการ
รายงานยังระบุว่า ผู้นำอินโดฯตั้งเป้าให้เมืองหลวงแห่งใหม่นี้ นอกจากจะเป็นเมืองศูนย์กลางของที่ทำการรัฐบาลแล้ว ยังตั้งเป้าให้เป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีของประเทศ โดยยึดหลักรักษาสิ่งแวดล้อมและการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนเมืองในรูปแบบสมาร์ทซิตี้
เบื้องต้นอินโดนีเซียตั้งงบประมาณสำหรับเมืองหลวงใหม่แห่งนี้ที่ 33,000 ล้านดอลลาร์ โดยเมืองใหม่แห่งนี้วาดฝันให้มีสถานบันการศึกษาระดับโลก โรงพยาบาลที่ทันสมัย และสวนพฤกษศาสตร์ รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เมืองหลวงใหม่นี้จะมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 180,000 เฮกเตอร์ ในจำนวนนี้ราว 10,000 เฮกเตอร์จะถูกใช้เป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการต่างๆ ส่วนอีก 30,000 เฮกเตอร์จะเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน ในราคาเพียงเศษเสี้ยวของต้นทุนที่ดินในกรุงจาการ์ตา
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ประธานาธิบดีโจโกวี ได้ประกาศปักหมุดเมืองหลวงแห่งใหม่ไปยังจังหวัดกาลิมันตันตะวันออก ด้วยเหตุผลหลักๆที่กรุงจาการ์ต้าเต็มไปด้วยความแออัด สภาพการจราจรติดขัด และแผ่นดินทรุดตัวเกินจะเยี่ยวยาได้นั้น
ผลสำรวจของ KedaiKopi ได้พบว่าชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะย้ายเมืองหลวงออกจากจาการ์ต้า
ผลโพลระบุว่า จากกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจความคิดเห็นทั่วประเทศ ปรากฏว่า 35.6% เห็นด้วย 39.8% ไม่เห็นด้วย ขณะทื่่กลุ่มตัวอย่างจากการสำรวจในจาการ์ต้าสูงถึง 95.7% ไม่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าว
Kunto Wibowo ผู้อำนวยการสำนักโพล KedaiKopi อธิบายว่าเหตุที่ชาวกรุงจาการ์ต้าส่วนใหญ่คัดค้านนั้นเนื่องจากยังขาดความชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของเมืองที่พวกเขาอยู่ รวมถึงผลกระทบและแผนการเยียวยาในด้านต่างๆ
ในอีกด้านหนึ่งจากการสำรวจประชากรบนเกาะบอร์เนียวพบว่า ราว 48% เห็นด้วยกับแผนการนี้ มีเพียง 29% เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย ขณะที่อัตราการสนับสนุนที่สูงที่สุดคือ 68% ของประชาชนบนเกาะสุลาเวสีที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งอาจได้รับอานิสงส์จากการไหลเวียนของเศรษฐกิจและผู้คนที่เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี เรื่องดังกล่าวส้งผลให้เกิด #IbuKotaPindahUntukSiapa (ย้ายเมืองหลวงเพื่อใคร) และ #IbukotaPesananCukong (เมืองหลวงเพื่อนายทุน) บนติดเทรนด์บนสื่อสังคมออนไลน์ในอินโดนีเซียช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากชาวเน็ตในอินโดฯหลายคนกังขาว่าแผนย้ายเมืองหลวงนี้จะมีกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลังรอกอบโกย
ทั้งนี้ มีรายงานว่ากรุงจาการ์ต้ายังคงมีสถานะเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป