posttoday

สิงคโปร์เพิ่มวัยเกษียณ65ปีสู้วิกฤติสังคมผู้สูงวัย

19 สิงหาคม 2562

สิงคโปร์เร่งแก้ปัญหาอัตราการเกิดต่ำ คนสูงวัยล้นประเทศ ด้วยการเพิ่มอายุวัยเกษียณ พร้อมช่วยภาคธุรกิจรับมือกับภาระทางการเงินเพื่อช่วยเหลือพนักงานที่สูงวัยมากขึ้น

สิงคโปร์เร่งแก้ปัญหาอัตราการเกิดต่ำ คนสูงวัยล้นประเทศ ด้วยการเพิ่มอายุวัยเกษียณ พร้อมช่วยภาคธุรกิจรับมือกับภาระทางการเงินเพื่อช่วยเหลือพนักงานที่สูงวัยมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี ลีเซียนลุง แห่งสิงคโปร์กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันแถลงนโยบายแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ว่า จะค่อยๆ เพิ่มเพดานการเกษียณอายุพิ่มขึ้นจาก 62 ปี มาเป็น 65 ปี หากนายจ้างจะจ้างพนักงานเดิมต่อไปหลังเกษียณอายุ พนักงานดังกล่าวจะสามารถเกษียณครั้งสุดท้ายที่อายุ 70 ปี จากเดิมที่ 67 ปี

รัฐบาลจะเพิ่มเงินสมทบกองทุนบำเหน็จบำนาญสำหรับคนงาน โดยภายในปี 2030 คนทำงานที่มีอายุ 60 ปี หรือต่ำกว่านั้นจะได้รับเงินชดเชยเต็มจำนวน

รัฐบาลยังจะช่วยภาคธุรกิจรับมือกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เนื่องจากนายจ้างจะต้องปรับเงินสมทบให้สอดคล้องกับการเกษียณอายุของพนักงาน

ส่วนมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลที่ประกาศไปแล้ว คือจะอัดฉีดงบประมาณ 4,400 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับกองทุนดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยขณะนี้ สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีอายุขัยประชากรสูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยสูงถึง 85 ปี มีประชากรอายุเกิน 100 ปีถึง 1,300 คน จากประชากรไม่ถึง 6 ล้านคน แต่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยเมื่อปีที่แล้วมีเด็กเกิดใหม่น้อยที่สุดในรอบ 8 ปี 

ก่อนหน้านี้ โจเซฟิน เตียว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ กล่าวในเดือนมีนาคมว่า วัยเกษียณที่เพิ่มขึ้นจะกระตุ้นให้คนงานและนายจ้างลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อยกระดับทักษะและปรับงานให้เหมาะกับแรงงานที่มีอายุมากขึ้น นอกจากนี้ การเพิ่มอายุการจ้างงานใหม่ จะทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในการตั้งค่าข้อกำหนดการทำงานใหม่ เช่นเงินเดือนและหน้าที่รับผิดชอบของงาน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางธุรกิจ