แม้ถูกยูเอ็นคว่ำบาตร โสมแดงยังสูบเงินจากโจมตีไซเบอร์ได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์

แฮกเกอร์เกาหลีเหนือทำเงินได้กว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ยูเอ็นเชื่อนำไปหนุนโครงการพัฒนาอาวุธ

รายงานจากคณะกรรมาธิการคว่ำเกาหลีเหนือขององค์การสหประชาชาติ ได้เปิดเผยรายงานเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า แม้เกาหลีเหนือจะอยู่ในระหว่างการถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ แต่เกาหลีเหนือก็สามารถระดมรายได้มากถึง 2 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 6 หมื่นล้านบาท จากวิธีการโจมตีทางไซเบอร์ โดยมีเป้าหมายคือบรรดาธนาคาร และเว็บไซต์ซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล

รายงานระบุว่า ยูเอ็นกำลังดำเนินการสอบสวนเหตุโจมตีไซเบอร์ 35 กรณีที่เชื่อว่าจะเป็นฝีมือเกาหลีเหนือ

การโจมตีในหลายครั้งต่อตลาดซื้อขายเงินดิจิตอลนั้นทำให้เกาหลีเหนือมีรายได้ที่ยากต่อการติดตาม และไม่มีการตรวจสอบจากรัฐบาล โดยรายงานเชื่อว่าเหตุที่เกาหลีเหนือโจมตีทางไซเบอร์นี้ก็เพราะต้องการระดมเงินทุนเพื่อนำไปสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธศักยภาพสูง

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือถูกยูเอ็นคว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2006 ที่ผ่านมาซึ่งส่งผลให้เกาหลีเหนือไม่สามารถส่งออกสินค้าสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศในหลายชนิดอาทิ ถ่านหิน แร่ สิ่งทอ และอาหารทะเล นอกจากนี้ยังรวมถึงการแบนไม่ให้เกาหลีเหนือนำเข้าน้ำมันดิบ และปิโตรเลียมด้วย

ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบขีปนาวุธในหลายครั้ง แม้ว่าทั้งนายคิมจองอึน และประธานาธิบดีทรัมป์จะให้คำมั่นรวมกันระหว่างพบปะหารือที่หมู่บ้านปันมุนจอมว่าจะกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาก็ตาม