posttoday

ดราม่าเวทีนางงาม ทำแล้วรวย ไม่ทำได้ไง

16 กรกฎาคม 2562

เมื่อเวทีนางงามกลายเป็นบันไดต่อยอดธุรกิจที่คนรวยหมายตา

เมื่อเวทีเวทีนางงามกลายเป็นบันไดต่อยอดธุรกิจที่คนรวยหมายตา

ช่วงนี้แวดวงนางงามดูร้อนแรงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายที่แต่ละประเทศจะคัดสรรสาวงามของตัวเองเพื่อส่งเข้าชิงมงกุฎในเวทีระดับโลก นอกจากดราม่าที่จุดขึ้นจากการโพสต์ภาพเพียงภาพเดียวจนลุกลามเป็นการปะทะฝีปากกันข้ามเวทีในบ้านเราแล้ว เวทีสาวงามของประเทศอื่นก็มีประเด็นให้พูดถึงไม่แพ้กัน

อย่างที่เกาหลีใต้ที่เพิ่งประกาศผลไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์การสวมชุดฮันบกประยุกต์ที่เปิดเผยเนื้อหนังมากจนเกินงามว่าเป็นการไม่เคารพความเป็นชุดประจำชาติ ดัดแปลงเสียจนไม่เหลือเค้าความเป็นชุดฮันบกที่มีความอ่อนช้อยและเรียบร้อย  รวมทั้งการที่คิมเซยอน เจ้าของมงกุฎในปีนี้เป็นลูกสาวของคิมชางฮวาน ซีอีโอค่าย Media Line Entertainment ที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายศิลปินในสังกัด รวมทั้งเวทีสาวงามของประเทศอื่นที่ต้องมีดราม่าเกิดขึ้นแทบทุกครั้ง

ดราม่าเวทีนางงาม ทำแล้วรวย ไม่ทำได้ไง Photo by Ted ALJIBE / AFP

ขึ้นชื่อว่าดราม่าคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเวทีประกวด ทว่าแต่ละปีแต่ละเวทีก็ยังมีประเด็นร้อนแรงเกิดขึ้นตลอดทั้งที่บางเรื่องไม่น่าจะเกิดขึ้น จนถูกมองว่าดราม่าและการประกวดเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่หากมองอีกมุมหนึ่งดราม่าน่าจะมีส่วนช่วยสร้างกระแสสร้างการรับรู้ให้กับเวทีนั้นๆ ไม่มากก็น้อย เมื่อเป็นที่รู้จักในวงกว้างก็ย่อมต้องมีผลประโยชน์ในทางธุรกิจตามมา

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเองก็เคยเป็นเจ้าของ Miss Universe Organization ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการประกวดสาวงามในเวที Miss Universe, Miss USA และ Miss Teen USA ระหว่างปี 1996-2015 ก่อนจะขายกิจการให้กับ IMG เมื่อปี 2015 ธุรกิจเวทีประกวดสาวงามถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้ให้ทรัมป์นับล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ในเอกสารเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินที่ทรัมป์ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุว่า Miss Universe Organization มีมูลค่าราว 5-25 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งยังเป็นธุรกิจที่จะช่วยสร้างคอนเนคชั่นเพื่อปูทางไปสู่ความร่วมมือทางธุรกิจอื่นๆ  ในอนาคตของทรัมป์ด้วย

ดราม่าเวทีนางงาม ทำแล้วรวย ไม่ทำได้ไง Photo by Joaquin SARMIENTO / AFP

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าทรัมป์ใช้เวทีนางงามเป็นบันไดต่อยอดธุรกิจในต่างประเทศคือ การจัดการประกวด Miss Universe ปี 2013 ที่กรุงมอสโกของรัสเซีย ทรัมป์หมายตาจะเข้าไปธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรัสเซียมานานหลายสิบปีแล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สำเร็จ จนกระทั่งได้รู้จักกับ อาราส อากาลารอฟ ไทคูนอสังหาริมทรัพย์ของรัสเซียและหนึ่งในคนสนิทของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน  ผ่าน เอมิน ลูกชายของอากาลาลอฟ กระทั่งได้สองพ่อลูกเป็นหุ้นส่วนในการจัดประกวดสาวงามที่รัสเซีย โดยมีดีลธุรกิจเป็นผลพลอยได้จากการจับมือกันจัดการประกวด

แม้จะไม่มีการยืนยันว่าการพบปะและดีลธุรกิจระหว่างทรัมป์กับคนสนิทของปูตินคืบหน้าอย่างไรบ้าง เพราะหลังจากนั้นทรัมป์ก็หันไปให้ความสนใจกับการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายมีการตั้งข้อสังเกตกันว่าคอนเนคชั่นกับนักธุรกิจคนสนิทของปูตินเมื่อครั้งการประกวดสาวงามมีส่วนช่วยให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 จากการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียซึ่งยังไม่สามารถพิสูจน์ได้

ดราม่าเวทีนางงาม ทำแล้วรวย ไม่ทำได้ไง Photo by Ted ALJIBE / AFP

ทว่ามีหลักฐานจากคำให้การของ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ต่อคณะกรรมการตุลาการวุฒิสภา ระบุว่าเอมินติดต่อกับทรัมป์ จูเนียร์ ให้มีการพบปะกันระหว่างนักกฎหมายรัสเซียและทีมหาเสียงของทรัมป์ที่ทรัมป์ทาวเวอร์เมื่อปี 2016 เพื่อปล่อยข้อมูลโจมตี ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งทรัมป์

นอกจากนี้ บรรดาสาวงามอีกหลายคนยังเผยว่าทรัมป์พยายามเปลี่ยนเวทีนางงามให้เป็นเรื่องการเมืองและธุรกิจ อาทิ แคร์รี่ เบย์ลิส มิสจาเมกาปี 2013 ระบุว่า รายชื่อสาวงามที่เข้ารอบสุดท้ายมีแต่ประเทศที่ทรัมป์เข้าไปทำหรือต้องการทำธุรกิจด้วย ซึ่งตามที่โฆษกของทางกองประกวดแจ้งคือ ทางกองประกวดมีกฎให้เจ้าหน้าที่ของบริษัท รวมถึงทรัมป์ มีสิทธิ์เลือกสาวงามเข้ารอบสุดท้ายด้วย ซึ่งหากเป็นดังที่มิสจาเมกาเอ่ยจริง ทรัมป์ก็มีสิทธิ์ใช้เวที Miss Universe ต่อยอดขยับขยายอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองชนิดที่วินวินกันทั้งสองฝ่าย