พบหลุมศพขุนศึกคนสนิทนโปเลียนช่วงบุกรัสเซีย
ทีมนักโบราณคดีพบหลุมของนายพล Charles Etienne Gudin หนึ่งในทหารคนสนิทของนโปเลียน ที่เสียชีวิตช่วงยุทธการบุกรัสเซียปี 1812
ทีมนักโบราณคดีพบหลุมของนายพล Charles Etienne Gudin หนึ่งในทหารคนสนิทของนโปเลียน ที่เสียชีวิตช่วงยุทธการบุกรัสเซียปี 1812
รอยเตอร์รายงานว่า คณะโบราณคดีได้ค้นพบหลุมฝังศพที่เชื่อว่าจะเป็นร่างของนายพล Charles Etienne Gudin ซึ่งเป็นหนึ่งในขุนศึกคนสนิทของนโปเลียนช่วงที่ทำการบุกดินแดนรัสเซียในปี 1812
รายงานระบุว่าทีมนักโบราณคดีได้พบร่างของนายพลผู้นี้ถูกฝังอยู่ใต้พื้นฟลอเต้นรำภายในสวนสาธารณะในเมือง Smolensk ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก
Photo : Reuters
นายพล Charles Etienne Gudin นับว่าเป็นหนึ่งในขุนศึกที่มีความสนิทสนมกับนโปเลียน ซึ่งเขายังมีชื่อจารึกอยู่ที่ Arc de Triomphe ใจกลางกรุงปารีสโดยระบุว่า เขาเสียชีวิตเมื่ออายุได้เพียง 44 ปี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมปี ค.ศ. 1812 หลังจากถูกยิงด้วยกระสุนปืนในระหว่างยุทธการบุกรัสเซียของนโปเลียนที่สุดท้ายลงเอยด้วยความพ่ายแพ้
นายพล Gudin นับว่าเป็นนายทหารคนสนิทของนโปเลียนที่หลังจากการตายของเขา และมีการตัดหัวใจของเขาออกเพื่อนำกลับไปฝังยังสุสาน Pere Lachaise ในกรุงปารีส แถมยังมีการประดับรูปปั้นครึ่งตัวของเขาตั้งอยู่ในพระราชวังแวร์ซายส์ และมีการนำชื่อของเขาไปตั้งเป็นชื่อถนนในกรุงปารีสด้วย
ทีมนักโบราณคดีของรัสเซียและฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ได้ค้นพบซากของนายพล Gudin เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา บันทึกทางประวัติศาสตร์จากช่วงเวลานั้นระบุว่า Gudin บาดเจ็บในสนามรบระหว่างที่บุกรัสเซีย จนส่งผลให้เขาต้องสูญเสียขาซ้าย จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
The joint team of 🇫🇷 &🇷🇺 archeologists found remains of human body in #Smolensk central park. All the evindence points at General Gudin de La Sablonière , but DNA-testing will shed light on the matter. #LopatinskyGarden 🏞@Russia pic.twitter.com/CVNBRC5T6e
— Smolensk_live (@Smolensk_live) July 9, 2019
ทีมนักโบราณระบุว่า ซากศพที่พบนั้นถูกเก็บในโรงฝังศพ พร้อมกับมีร่องรอยการบาดเจ็บที่สอดคล้องกับบันทึกการเสียชีวิตของ Gudin จึงมีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเป็นเขา
Pierre Malinovsky นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญของทีม และได้รับการยกย่องการค้นพบนี้ว่าเป็นสุุดยอดของการค้นหาที่ยาวนาน
อย่างไรก็ดี ขั้นตอนหลังจากนี้นั้นทาง สมาคมประวัติศาสตร์การทหารรัสเซีย ซึ่งมีส่วนร่วมในการค้นหาครั้งนี้เผยว่า จะต้องใช้วิธีการระบุศพด้วยดีเอ็นเอ และมีขั้นตอนการชั้นสูตรทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนถึงหนึ่งปี แต่ก็จะช่วยให้สามารถไขคำตอบหลายประกาศในช่วงเวลาดังกล่าวได้ไม่น้อย