posttoday

ต่ำกว่า 55 ห้ามเข้า! สตาร์ทอัพเกาหลีใต้สวนกระแสรับคนสูงวัยทำงานไอที

14 มิถุนายน 2562

อายุเป็นเพียงตัวเลข ถ้ายังมีไฟ ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ยังทำงานได้

อายุเป็นเพียงตัวเลข ถ้ายังมีไฟ ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ยังทำงานได้

“เกาหลีกำลังเผชิญปัญหาตัวเลขผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมมั่นใจว่าความสามารถของคนกลุ่มนี้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ ขณะเดียวกันการทำงานก็ช่วยให้กลุ่มคนวัยเกษียณไม่ต้องเหงาอยู่กับบ้านลำพัง” ชุงอึนซอง ผู้ก่อตั้ง EverYoung บริษัทคัดกรองเนื้อหาในโลกออนไลน์ในกรุงโซลของเกาหลีใต้เผย

บริษัทสตาร์ทอัพแห่งนี้กลายเป็นข่าวไปทั่วประเทศด้วยนโยบายการจ้างงานที่ไม่มีบริษัทไหนๆ ในเกาหลีใต้ทำ นั่นคือ คุณต้องมีอายุ 55 ปีขึ้นไปเท่านั้นเราจึงจะรับเข้าทำงาน ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าเจ้าของบริษัทยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของกลุ่มคนวัยเกษียณ และต้องการต่อสู้กับวัฒนธรรมในองค์กรของเกาหลีใต้ที่มีการเลือกปฏิบัติทางอายุ คือยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งมีโอกาสตกงานสูงขึ้น

บริษัทส่วนใหญ่ของเกาหลีใต้ขึ้นชื่อเรื่องการบังคับให้พนักงานเกษียณก่อนถึงอายุที่กฎหมายกำหนดคือ 60 ปี โดยมองว่าศักยภาพในการทำงานของพนักงานจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น และเมื่อเร็วๆ นี้ยังมีผลการสำรวจความคิดเห็นชาวเกาหลีใต้อายุระหว่าง 20-50 ปีโดย Statistics Korea ระบุอีกว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 82% กังวลว่าจะถูกนายจ้างบังคับให้เกษียณก่อนกำหนด แสดงว่าปัญหานี้คือเรื่องใหญ่ของสังคมเกาหลีที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นๆ

ชุงมองเห็นและเชื่อมั่นในศักยภาพของคนกลุ่มนี้ เขาจึงเปิดบริษัท EverYoung เมื่อ 6 ปีที่แล้วเพื่อรองรับพนักงานวัยเกษียณโดยเฉพาะ และมีพนักงานจากสาขาอาชีพต่างๆ ถึง 420 คน

บรรดาคุณตาคุณยายวัยเก๋าจะได้รับการฝึกให้ใช้แพลตฟอร์ม Naver หรือกูเกิลในเวอร์ชั่นของเกาหลีใต้ เพื่อให้คัดกรองข้อมูลหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมทั้งบน Naver Map และในบล็อก รวมทั้งฝึกฝนทักษาด้านไอทีอื่นๆ และบางครั้งคุณตาคุณยายเหล่านี้ยังสอนการเขียนโค้ดให้กับเด็กนักเรียนด้วย

EverYoung กำหนดให้ทุกคนทำงานวันละ 4 ชั่วโมง โดยทุก 50 นาทีจะให้พัก 10 นาที ซึ่งทางบริษัทจัดเตรียมห้องพักผ่อนสำหรับจิบชา อ่านหนังสือไว้ให้ไม่ต่างกับออฟฟิศในฝันของหลายคนอย่างกูเกิล เฟซบุ๊ค แม้กระทั่งเครื่องวัดความดันก็เตรียมไว้ให้คุณตาคุณยายได้เช็กสุขภาพกันเบื้องต้นระหว่างพัก

แม้คนส่วนใหญ่จะมองว่าผู้สูงอายุมักจะงกๆ เงิ่นๆ และไม่น่าจะเข้าใจเรื่องไอทีโดยเฉพาะการท่องโลกโซเชียล แต่พนักงานของ EverYoung พิสูจน์แล้วว่าอายุไม่ใช่ข้อจำกัดเลย หนำซ้ำผู้สูงอายุยังใส่ใจกับรายละเอียด รอบคอบ และมีสมาธิกว่าคนวัยหนุ่มสาวเสียอีก

คุณตาวัย 83 ปีซึ่งเป็นพนักงานที่อาวุโสที่สุดของ EverYoung เผยว่า “ผมพยายามปรับตัวให้ทันสมัยตลอดเวลาและพร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ผมได้เรียนรู้ทักษะไอทีเพิ่มเติมมากมาย และรู้สึกสนุกกับการทำงานในทุกๆ วัน” ส่วนคุณยายอันคยองฮวา วัย 59 ปี กล่าวว่า “หลังจากลูกสาว 2 คนของฉันโต ฉันก็รู้สึกอยากลุกขึ้นมาทำอะไรด้วยตัวเอง และพัฒนาตัวเอง”

ความสุขของพนักงานทั้งสองยิ่งทำให้โครงการนี้ยิ่งมีความหมายขึ้นไปอีก เพราะนอกจากจะช่วยคลายเหงาให้คนวัยเกษียณแล้ว ยังช่วยสร้างอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของคุณตาคุณยายให้ดียิ่งขึ้นด้วย ถือเป็นการแก้ปัญหาและแบ่งเบาภาระของสังคมแบบอ้อมๆ ไปในตัว

สำหรับประเทศไทยที่มีผู้สูงอายุถึง 10.6 ล้านคน หรือคิดเป็น 16.06%  (ข้อมูลจากระบบสถิติการลงทะเบียน กรมการปกครอง ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2561) ควรมีมาตรการรองรับคนวัยเกษียณที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเสียแต่เนิ่นๆ