posttoday

แอกเนส โจว แกนนำคนรุ่นใหม่พาฮ่องกงท้าทายอำนาจจีน

12 มิถุนายน 2562

จากเด็กหญิงที่ไม่เคยสนใจการเมืองสู่แกนนำเรียกร้องประชาธิปไตยจากจีน

ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ของฮ่องกงนับหมื่นคนปักหลักประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ในบ้านเกิด จนวันนี้รัฐบาลยอมถอยชั่วคราว เลื่อนการพิจารณากฎหมายดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด อีกฟากหนึ่ง หนึ่งในแกนนำประท้วงคนสำคัญอย่าง แอกเนส โจว สมาชิกพรรค Demosisto วัย 22 ปีได้พยายามเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นเข้ามาแทรกแซงการแก้กฎหมายของรัฐบาลฮ่องกง

หลังจากเข้าร่วมประท้วงให้คว่ำกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เช้าวันรุ่งขึ้น แอกเนส โจว เดินทางไปยังญี่ปุ่นเพื่อขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นใช้ความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ กดดันให้รัฐบาลฮ่องกงยกเลิกกฎหมายเจ้าปัญหา

เธอเผยในงานแถลงข่าวที่ญี่ปุ่นว่า “ครั้งนี้ฉันมาญี่ปุ่นเพื่อชี้ให้เห็นถึงการแก้ไขกฎหมาย ฉันต้องการให้รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสนใจและเตรียมรับมือกฎหมายอันตรายนี้” โจวพยายามชี้ให้สื่อมวลชนญี่ปุ่นเห็นว่ากฎหมายที่กำหนดให้ฮ่องกงส่งตัวผู้ต้องสงสัยในคดีอาญาไปดำเนินคดีที่จีนแผ่นดินใหญ่ จะบังคับใช้กับผู้อยู่อาศัยที่เป็นชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปฮ่องกง รวมทั้งชาวญี่ปุ่นที่เดินทางท่องเที่ยวในฮ่องกงปีละกว่า 1 ล้านคนด้วย อีกทั้งกฎหมายใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อสถานะศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกงด้วย

เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้เป็นใคร เหตุใดจึงกล้าไปขอให้รัฐบาลประเทศอื่นเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง

แอกเนส โจว แกนนำคนรุ่นใหม่พาฮ่องกงท้าทายอำนาจจีน ภาพ : wikipedia

ชีวิตวัยเด็กของเธอก็ไม่ต่างจากเด็กทั่วไป เธอเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่มีความสนใจทางการเมือง ที่บ้านไม่เคยพูดถึงเรื่องการเมืองหรือประเด็นทางสังคมเลย จนกระทั่งอายุ 15 ปี โจวก็ได้พบโลกใหม่ เธอบังเอิญเห็นโพสต์ที่กลุ่มคนรุ่นใหม่วัยเดียวกับตัวเองรวมตัวกันประท้วงนโยบายของรัฐบาลในเฟซบุ๊คเมื่อปี 2012 เข้า จากเด็กที่ไม่คิดจะสนใจเรื่องการเมืองก็เปลี่ยนไป

ขณะนั้นกระทรวงศึกษาธิการฮ่องกงต้องการเปลี่ยนเนื้อหาในแบบเรียนใหม่ แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการ “ล้างสมอง” เพราะเป็นการชื่นชมจุดยืนเรื่องคอมมิวนิสต์และความเป็นชาตินิยมของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่อย่างชัดเจน แต่กลับตำหนิความเป็นประชาธิปไตย ส่งผลให้มีกลุ่มนักเรียนที่เรียกตัวเองว่า Scholarism รวมตัวประท้วงที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งโจวก็ไปร่วมกับเขาด้วย และที่นี่เองที่เธอได้พบกับ โจชัว หว่อง แกนนำนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดังอีกคนหนึ่งของฮ่องกง

แอกเนส โจว แกนนำคนรุ่นใหม่พาฮ่องกงท้าทายอำนาจจีน แอกเนส โจว กับโจชัว หว่อง สวมผ้าแดงปิดตาเมื่อเดือน ก.ย. 2014 เป็นสัญลักษณ์ว่านักศึกษาฮ่องกงถูกอำนาจทางการเมืองของจีนปิดตาไว้ ภาพ : wikipedia

หลังการประท้วงครั้งนี้ โจวและหว่องยังเดินหน้าเป็นแกนนำเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมกันต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ การประท้วงให้จัดการเลือกตั้งอย่างเสรีโดยไม่มีรัฐบาลจีนเข้ามาแทรกแซงเมื่อปี 2014 กลุ่มนักเรียนและนักศึกษาออกมาปิดถนนชุมนุมยาวนานถึง 79 วัน ที่เรียกว่าการประท้วงร่มเหลือง (Umbrella Movement) ซึ่งถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของฮ่องกง

“กลุ่มคนรุ่นใหม่ในฮ่องกงเริ่มไม่ค่อยเชื่อมั่นในรัฐบาลจีนเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เพราะเราคิดว่าเราไม่ใช่คนจีน ไม่ใช่เพราะเราไม่ชอบประเทศจีน พวกเราแค่รู้สึกว่าไม่สามารถเชื่อใจรัฐบาลจีนได้อีกต่อไป” โจวปราศรัยกระตุ้นให้นักเรียนมัธยมออกมาร่วมการประท้วงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

ทว่า หลังจากเดินหน้าฮาร์ดคอร์มาตลอด ระหว่างการยึดย่านสำคัญของฮ่องกง โจวประกาศเฟดตัวจากการเมืองโดยลาออกจากตำแหน่งโฆษกของกลุ่ม Scholarism เอาดื้อๆ อ้างว่าเหนื่อยและไม่ต้องการเผชิญแรงกดดันมหาศาล

สืบเนื่องจากการประท้วงร่มเหลือง โจว หว่อง และนาธาน หลอ ได้ร่วมกันก่อตั้งพรรค Demosisto เมื่อเดือน เม.ย.2016 โดยมีโจวรับหน้าที่เลขาธิการพรรคคนแรกจนถึงปี 2017 และในปีเดียวกันเธอยังเข้าร่วมประท้วงการเดินทางเยือนฮ่องกงของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน ด้วยการนั่งชุมนุมอย่างสงบล้อมรอบรูปปั้นดอกชงโคสีทอง สัญลักษณ์แห่งอิสรภาพของฮ่องกง จนถูกจับกุมตัวพร้อมกับแกนนำคนอื่นอีก 25 คน ก่อนจะถูกปล่อยตัวในวันถัดมา

แอกเนส โจว แกนนำคนรุ่นใหม่พาฮ่องกงท้าทายอำนาจจีน แอกเนส โจว ขึ้นเวทีหาเสียงกับ นาธาน หลอ ในการเลือกตั้งซ่อมปี 2018 ภาพ : wikipedia

ในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อปีที่แล้ว โจวได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของพรรคชิงเก้าอี้สมาชิกสภาแทนที่ นาธาน หลอ ที่ถูกตัดสิทธิ์จากตำแหน่งเนื่องจากหลอใช้โอกาสในวันเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเป็นเวทีประท้วงจีนแผ่นดินใหญ่ และเพื่อให้มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด

โจวต้องสละสัญชาติอังกฤษ ทั้งยังต้องหยุดเรียนชั่วคราวเพื่อเตรียมตัวรับตำแหน่ง แม้หลายคนมองว่าเธอต้องเสียสละอย่างมาก แต่เธอกลับคิดว่า “บางคนอาจจะคิดว่าการกระทำนี้เป็นการเสียสละ แต่ไม่ใช่สำหรับฉัน ฉันต้องการต่อสู้เพื่อฮ่องกง และมันเทียบกันไม่ได้เลยกับคนที่ต้องถูกจำคุก”

แต่ในที่สุดเส้นทางการเมืองในฐานะ ส.ส.ของโจวกลับต้องสะดุดลงทั้งที่ยังไม่ได้รับตำแหน่งด้วยซ้ำ เมื่อต้นปีที่แล้วคณะกรรมการการเลือกตั้งฮ่องกงประกาศตัดสิทธิ์โจว โดยอ้างว่าเธอไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากพรรค Demosisto มีแนวทางชัดเจนในการเรียกร้องอิสระในการปกครองตนเอง ซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญของฮ่องกงที่ยึดหลัก 1 ประเทศ 2 ระบบ ซึ่งหากโจวได้รับเลือกตั้ง เธอจะเป็น ส.ส.ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของฮ่องกง