ตำรวจฮ่องกงยิงแก๊สน้ำตา-ฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุนนุมล้อมสภาต้านกม.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ตำรวจฮ่องกงปะทะม็อบ เปิดฉากยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง ใส่ผู้ประท้วง หวังสลายการชุมนุม แม้สภาเลื่อนพิจารณาร่างกฎหมายแล้ว
ตำรวจฮ่องกงปะทะม็อบ เปิดฉากยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง ใส่ผู้ประท้วง หวังสลายการชุมนุม แม้สภาเลื่อนพิจารณาร่างกฎหมายแล้ว
จากกรณีผู้ชุมนุมประท้วงชาวฮ่องกงรวมตัวประท้วงต่อต้านการอภิปรายรอบ 2 ของการพิจารณากฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเข้าไปในจีนตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (12 มิ.ย.) ที่บริเวณโดยรอบอาคารที่ทำการรัฐบาลและอาคารรัฐสภาฮ่องกง มีรายงานความคืบหน้าว่าทางด้านตำรวจฮ่องกงได้เปิดฉากใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม จนกลายเป็นการจลาจลระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง
สำหรับร่างกฎหมายดังกล่าวว่าด้วยการเนรเทศผู้กระทำความผิดในคดีอาญา รวมถึงผู้กระทำความผิดที่เป็นชาวต่างชาติด้วยให้ไปเข้ากระบวนการไต่สวนและรับโทษที่จีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งทางกลุ่มผู้ประท้วงระบุว่าเป็นการที่ยิ่งเปิดโอกาสให้รัฐบาลปักกิ่งเข้าแทรกแซงฮ่องกงได้มากขึ้น
แม้ว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมาทางสภาระบุว่าจะเลื่อนการพิจารณาร่างดังกล่าวออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนด
รายงานระบุว่าทางตำรวจได้เข้าตรึงกำลังรอบอาคารที่ทำการรัฐบาล แต่สถาการณ์ประท้วงได้บานปลายจนเจ้าหน้าที่ต้องยิงใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และสเปรย์พริกไทยเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนผู้ชุมนุมได้ใช้ร่มและก้อนอิฐที่วางกองอยู่ริมถนนใกล้อาคารรัฐบาลตอบโต้เจ้าหน้าที่ จนกลายเป็นเหตุจลาจลวุ่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ล้อมสภากดกันถอนร่างฯ ขู่ไม่เลิกไม่เลื่อน
ภาพการจลาจลครั้งนี้ส่งผลให้หลายฝ่ายย้อนมองกลับไปถึงการชุมนุมร่มเหลืองในปี 2014 ซึ่งมีกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงถอนญัตติดังกล่าวออกจากการพิจารณาของสภาในทันทีไม่เช่นนั้นจะปักหลักชุมนุมต่อไปเรื่อยๆ
การประท้วงครั้งนี้หลายฝ่ายนึกถึงการชุมนุมประท้วงในปี 2014 ที่มีการชุมนุมยืดเยื้อในพื้นที่ใจกลางฮ่องกงนานหลายเดือน จนสุดท้ายอาจนำไปสู่คำสั่งจับกุมและดำเนินคดีต่อแกนนำผู้ประท้วง
ประท้วงครั้งนี้จะสำเร็จแค่ไหน
การเดินประท้วงครั้งนี้เป็นหนึ่งในการประท้วงใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่การประท้วงในปี 2014 ซึ่งในครั้งนี้ไม่มีผลสำเร็จของการชุมนุมอย่างเป็นรูปธรรม และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทางการฮ่องกงได้เข้มงวดในการชุมนุมเคลื่อนไหวทางประชาธิปไตยมากขึ้น นักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยหลายคนถูกตัดสินจำคุก
นางแคร์รี่ หล่ำ หัวหน้าคณะบริหารฮ่องกง ซึ่งเป็นฝ่ายที่สนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่ (Pro-beijing) ยืนยันว่าจะผลักดันกฎหมายนี้ให้สำเร็จ แม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันจะคัดค้าน แต่นางหล่ำยืนยันว่าจะไม่มีใบสั่งจากทางปักกิ่งแต่อย่างใด และมองว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะปิดช่องว่าที่ฮ่องกงเป็นของบรรดาอาชญากรต่างชาติ