posttoday

คิมจองอึนยอมรับอ่อนภาษาอังกฤษ กลัวสื่อสารกับทรัมป์ไม่รู้เรื่อง

21 พฤษภาคม 2562

วงในเผยคิมจองอึนกังวลเจอทรัมป์ครั้งแรก กลัวคุยไม่รู้เรื่องเพราะอ่อนอังกฤษ แต่ถนัดภาษาเยอรมันมากกว่า

วงในเผยคิมจองอึนกังวลเจอทรัมป์ครั้งแรก กลัวคุยไม่รู้เรื่องเพราะอ่อนอังกฤษ แต่ถนัดภาษาเยอรมันมากกว่า

โคเรียนไทมส์รายงานว่า นายคิมจองอึนผู้นำเกาหลีเหนือเคยยอมรับกับประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้ ถึงความกังวลเกี่ยวกับทักษะภาษาอังกฤษของเขาที่จะใช้สื่อสารกับประธานาธิบดีสหรัฐในช่วงการประชุมสุดยอดซัมมิตรครั้งประวัติศาสตร์ของทั้งสองผู้นำที่สิงคโปร์

"ผมกังวลเกี่ยวกับการอ่อนทักษะภาษาอังกฤษ" ผู้นำคิมยอมรับกับประธานาธิบดีมุนขณะเดินหารือร่วมกันที่หมู่บ้านปันมุนจอมเมื่อวันที่ 27 เมษายนปีที่ผ่านมา ซึ่งการเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นโดยนาย Tak Hyun-min คนใกล้ชิดของประธานาธิบดีมุนแจอินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประสานงานจัดซัมมิตระหว่างสองเกาหลี

 

คิมจองอึนยอมรับอ่อนภาษาอังกฤษ กลัวสื่อสารกับทรัมป์ไม่รู้เรื่อง

 

"แต่ผมถนัดภาษาเยอรมันมากกว่า" ผู้นำคิมกล่าวกับประธานาธิบดีมุน

คราวที่ผู้นำของทั้งสองเกาหลีพบปะหารือกันครั้งแรกที่หมู่บ้านปันมุนจอมเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีช่วงหนึ่งที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้เดินพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับผู้นำเกาหลีเหนือเป็นระยะเวลาราว 30 นาที บริเวณสะพานใกล้พรมแดนของทั้งสองชาติ

เป็นที่ทราบกันว่าผู้นำคิมจองอึนใช้ชีวิตและศึกษาที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์จึงไม่แปลกที่จะสามารถใช้ภาษาเยอรมันได้อย่างดี ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ของหลายฝ่ายว่านายคิมจองอึนอาจสามารถใช้ภาษาอื่นๆได้นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ

คิมจองอึนยอมรับอ่อนภาษาอังกฤษ กลัวสื่อสารกับทรัมป์ไม่รู้เรื่อง

นอกจากนี้ในระหว่างที่ทั้งประธานาธิบดีทรัมป์ และนายคิมจองอึนพบกันที่กรุงฮานอยของเวียดนามเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้นทั้งสองได้มีล่ามแปลภาษาติดตามอย่างใกล้ชิดตลอดการพบปะ

นาย Tak ยังเผยอีกว่าช่วงระหว่างที่ประธานาธิบดีมุนและภรรยาอยู่ในช่วงการเดินทางเยือนกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือนั้น นายคิมจองอึนได้สร้างเซอร์ไพร์ซให้กับทั้งสองด้วยการชวนไปเยือนเทือกเขาแพ๊กตู ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประธานาธิบดีมุนเคยเปรยไว้ว่าอยากไปเยือนช่วงที่ทั้งสองพบกันครั้งแรกที่ปันมุนจอมแล้ว

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าจับตามองว่าช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเกาหลีดูเหมือนจะถดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการพูดคุยซัมมิตรอบสองกับผู้นำสหรัฐที่ฮานอยก็ล้มไม่เป็นทางด้วย