posttoday

ความแกร่งแบบเจ้าสัวหญิง "กุญแจความสำเร็จก็คือ การมุ่งมั่นเดินหน้าต่อไป"

13 พฤษภาคม 2562

พวกเธอไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เกิด แต่เพราะไม่ยอมแพ้กับความล้มเหลวจึงก้าวมายืนบนแถวหน้าได้

 

นิยายหรือภาพยนต์บางเรื่องอาจทำให้เราเข้าใจผิดเอาง่ายๆ ว่า คนรวยในเอเชียเป็นกลุ่มไฮโซที่รวยมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ แต่เอาเข้าจริงแล้ว ในวงการธุรกิจของเอเชียไม่ค่อยมีผู้หญิงที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดมากนัก หลายๆ คนสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยสองมือ กว่าจะเดินทางมาถึงจุดสูงสุดของสังคม เต็มไปด้วยความล้มเหลวและความสมหวังปะปนกันไป แต่หลายคนมีจุดร่วมอย่างหนึ่วในแง่ของการเป็นผู้หญิงที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา

วันนี้เราจะขอแบ่งปันคำพูดที่สะท้อนชีวิตการต่อสู้ของบรรดานักธุรกิจหญิงชั้นนำของเอเชีย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงที่อยากจะประสบความสำเร็จเหมือนพวกเธอเหล่านั้น

โจวฉุนเฟย

ผู้ก่อตั้งบริษัท Lens Technology โจวฉุนเฟย วัย 48 ปี เป็นหนึ่งในนักธุรกิจหญิงสร้างตัวชาวจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคนหนึ่ง ปัจจุบันมีทรัพย์สินถึง 9,800 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เธอไต่เต้าจากครอบครัวที่ยากจน ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นในความสำเร็จ เธอบอกกับ CNBC ว่า “หลายๆ คนสูญเสียความมั่นใจไปอย่างมาก เมื่อเผชิญกับความล้มเหลว แต่กุญแจของความสำเร็จก็คือ การมุ่งมั่นเดินหน้าต่อไปแม้ว่าจะมีความหวังเพียงน้อยนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด”

โยชิโกะ ชิโนฮาระ 

สุภาพสตรีชาวญี่ปุ่น ผู้สร้างเนื้อสร้างตัวจากสถานะที่แทบไม่มีอะไรเลย จนกระทั่งก่อตั้ง Temp Holdings เพื่อช่วยผู้หญิงหางาน และปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทถึง 5,200 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้พ่อจะเคยเป็นอาจารย์ใหญ่ในโรงเรียน แต่ โยชิโกะ ได้รับการศึกษาเพียงระดับพื้นฐานเท่านั้น เพราะพ่อเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก หลังจากนั้นต้องปากกัดตีนถีบเรื่อยมา โดยทำงานไปด้วยระหว่างที่เลี้ยงลูกไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติพอควรในสังคมญี่ปุ่นที่แม่บ้านจะต้องอยู่กับบ้านเท่านั้น เธอบอกกับ Forbes Asia ว่า “การศึกษากับผู้หญิงเป็นสิ่งที่อยู่ในความคิดของฉันมาโดยตลอด การได้เห็นผู้หญิงได้ทำงานไปด้วย และเลี้ยงลูกไปด้วยเป็นความประทับใจที่ไม่อาจเลือมเลือนไปได้”

เหวียน ถิ เฟือง เท่า

นักธุรกิจหญิงผู้โด่งดังชาวเวียดนาม ประธานบริษัท VietJet Air ที่เริ่มชีวิตนักธุรกิจตั้งแต่ตอนเป็นนักศึกษาเศรษฐศาสตร์และการเงินที่สหภาพโซเวียต จากนั้นเริ่มสั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ จนกระทั่งทั่วโลกรู้จักในฐานะหัวเรือใหญ่ของ VietJet Air และธุรกิจที่หลากหลาย ไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะเธอเริ่มทำงานตั้งแต่เป็นนักศึกษา และเพราะชาวเวียดนามให้ค่ากับการศึกษาสูงมาก เธอจึงให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “ฉันเรียนรู้และทำวิจัยมาตลอด เป็นงานที่หนักมากๆ และการที่จะประสบความสำเร็จได้ คุณจะต้องมีความรู้สึกหลงใหลกับธุรกิจที่คุณกำลังทำอยู่”

คริสตินา อ็อง 

เจ้าของฉายา “ราชินีแห่งบอนด์สตรีท” เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่รวยที่สุดในสิงคโปร์ รายได้ส่วนใหญ่ของเธอมาจากการลงทุนกับ Mulberry แบรนด์แฟชั่นชื่อดังของอังกฤษ ประมาณการกันว่าเธอกับสามีมีทรัพย์สินประมาณ 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าสื่อหลายรายจะบอกว่า อ็อง เป็นคนเย็นชาและไม่เป็นมิตร แต่ในแง่การบริหารเธอเป็นผู้นำที่น่ารัก ทุ่มเทอธิบายงานกับพนักงานด้วยตัวเอง เธอกระตือรือร้นที่จะศึกษาและทำงานหลากหลายสาขา เพื่อกระตุ้นให้เกิดความคิดนอกกรอบ บอกกับ departures.com ว่า “ฉันต้องรักษาพลังนั้นเอาไว้ (การคิดนอกกรอบ)  ฉันทำงานตามคู่มือไม่ได้”

หยางฮุ่ยเหยียน

ปิดท้ายด้วย หยางฮุ่ยเหยียน แห่งบริษัท Country Garden นักธุรกิจหญิงชาวจีนและผู้หญิงที่รวยที่สุดในเอเชีย เธอคนนี้มีอายุแค่ 37 ปีเป็นอย่างมาก และแตกต่างจากคนอื่นๆ ข้างต้น ตรงที่เธอได้รับอานิสงส์ความมั่งมีจากผู้เป็นพ่อคือ หยางกั๋วเฉียง ผู้ก่อตั้ง Country Garden ดังนั้น เธอคนนี้จึงใกล้เคียงกับคำว่า คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดมากที่สุด และเธอก็เป็นคนเดียวที่เก็บตัวมากที่สุด ดังนั้น เราจึงไม่มีวาทะที่กลั่นกรองมาจากชีวิตของเธอ เพียงแต่ต้องการจะสื่อว่า ในบรรดามหาเศรษฐีในจีนเกือบทั้งหมด ล้วนแต่สร้างตัวมาจากคนที่มีฐานะยากจนหรือปานกลางทั้งนั้น

กรณีของ หยางฮุ่ยเหยียน เป็นส่วนน้อยมากถึงมากที่สุด ที่รวยเพราะบารมีของพ่อแม่

 

Photo by WANG ZHAO / AFP