พบโกงสอบเข้ามหา'ลัยดังสหรัฐครั้งมโหฬาร

สหรัฐแฉมหา'ลัยชื่อดังหลายแห่งรับเงินใต้โต๊ะแลกนำลูกคนรวยเข้าเรียน

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐโดยอัยการของรัฐแมสซาชูเซตต์ ได้แถลงข่าวเปิดโปงพร้อมสั่งดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงทางการศึกษาครั้งใหญ่จำนวน 50 คน หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อนำบุตรหลานฝากเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับท็อปของประเทศ

อัยการสหรัฐระบุว่าในจำนวนผู้ต้องหาทั้ง 50 คนนี้ส่วนใหญ่เป็นบุคคลมีชื่อเสียง เซเลบริตี้ ดารานักแสดงฮอลีวูด รวมถึงนักธุรกิจมหาเศรษฐีชื่อดัง จากการที่บุคลเหล่านี้ได้จ่ายเงินเป็นจำนวนหลายแสน หรือบางรายอาจสูงถึง6.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 200 ล้านบาท)ให้แก่สถาบันกวดวิชาและให้คำปรึกษาด้านการศึกษา ของวิลเลียม ซิงเกอร์ ในการจัดโกงคะแนนสอบวิชา SAT และ ACT สำหรับยื่นเข้ามหาวิทยาลัย หรือติดสินบนโค้ชทีมกีฬาของมหาวิทยาลัยในการรับรองเพื่อบรรจุชื่อเด็กๆเหล่านี้เข้าทีม เพื่อให้สามารถใช้โควต้านักกีฬาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับท็อปของประเทศได้ หรือสร้างโปรไฟล์ปลอมเพื่อใช้ในการสมัครเข้าเรียน

William Rick Singer

รายงานระบุว่า"สถาบันกวดวิชา"ของนาย วิลเลียม ซิงเกอร์ นั้นสามารถกอบโกยเงินมากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาเพื่อแลกกับกระบวนการโกงสอบดังกล่าว ซึ่งในจำนวนบุคคลทั้ง 50 รายนี้ แบ่งเป็นพ่อและแม่เด็กจำนวน 33 รายซึ่งล้วนเป็นบุคคลมีชื่อเสียง และนักธุรกิจทั้งสิ้น ขณะที่โค้ชทีมกีฬาของมหาวิทยาลัยต่างๆรวมกับผู้จัดสอบ SAT อีกจำนวน 14 คน และนายซิงเกอร์ กับพวกอีก 3 คน

คนดังรายไหนบ้างที่ถูกดำเนินคดี

ตามรายงานระบุว่าในจำนวนผู้ปกครองทั้ง 33 รายนั้น รวมถึง ดาราสาวในเรื่อง Desperate Housewives และ Full House รวมถึงCEOของบริษัทชื่อดังหลายแห่ง

มหาวิทยาลัยไหนบ้างที่ตกเป็นข่าว

มหาวิทยาลัยที่ตกเป็นข่าวนั้นล้วนเป็นมหาวิทยาลัยระดับท็อปของสหรัฐ และมหาวิทยาลัยในกลุ่มไอวีลีกทั้งสิ้น เช่น มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอส แองเจลีส (UCLA) มหาวิทยาลัยเยล, มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด, มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์, มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, มหาวิทยาลัยเท็กซัสออสติน, มหาวิทยาลัยเซาเธิร์น แคลิฟอร์เนีย เป็นต้น

ทั้งนี้ หากผู้ต้องหาทั้ง 50 รายนี้ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงอาจถูกจำคุกไม่เกิน 20 ปี ขณะรายงานไม่ได้ระบุว่าทางอัยการสหรัฐจะตั้งข้อหาต่อนักศึกษาซึ่งเป็นลูกหลานคนดังเหล่านี้หรือไม่ รวมถึงไม่ชัดเจนว่าจะสั่งลงโทษต่อมหาวิทยาลัยที่ตกเป็นข่าวหรือไม่ แต่ทางเอฟบีไอจะขยายผลการสอบสวนต่อไป