อิตาลีเข้ม เด็กไม่ฉีดวัคซีน ห้ามไปโรงเรียน

อิตาลีแบนเด็กนักเรียนที่ไม่ฉีดวีคซีนตามกำหนดไปโรงเรียน-สั่งปรับผู้ปกครองด้วย

รัฐบาลอิตาลีได้ออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้เด็กนักเรียนทุกคนต้องผ่านการฉีควัคซีนป้องกันโรคตามกำหนดก่อน จึงอนุญาตให้เข้าเรียนได้ รายงานระบุว่ากม.ใหม่นี้ผู้ปกครองอาจถูกปรับเป็นจำนวนเงินสูงถึง 500 ยูโร (เกือบ 18,000 บาท) หากพบว่าผู้ปกครองปล่อยให้บุตรหลานของตนไปโรงเรียนโดยไม่มีประวัติรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามที่ทางการกำหนดไปโรงเรียน ซึ่งหากพบโรงเรียนมีสิทธิ์ส่งนักเรียนกลับบ้านทันทีพร้อมกับสั่งปรับผู้ปกครองด้วย

ข้อกำหนดภายใต้กฎหมาย Lorenzin ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับใหม่ที่ตั้งตามชื่ิอของอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขอิตาลีนี้ กำหนดไว้ว่าเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบอาจถูกไล่ออกจากเนอร์เซอร์รี่และโรงเรียนอนุบาลได้หากพบว่าไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ในขณะที่เด็กตั้งแต่อายุ 6 ขวบขึ้นไปจนถึง 16 ปี จะถูกสั่งห้ามไปโรงเรียนจนกว่าจะได้รับการรับรองว่าฉีควัคซีนจริง รวมถึงผู้ปกครองอาจต้องเจอค่าปรับจากทางการด้วย

ข้อกำหนด Lorenzin นี้จะส่งผลให้ผู้ปกครองทั่วอิตาลีต้องนำพาบุตรหลานของตนเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ทันภายในวันที่ 10 มีนาคม ก่อนที่กฎหมายนี้จะถูกบังคับใช้ แต่รัฐบาลอาจยืดระยะเวลาออกไปราว 1 สัปดาห์เพื่อความสะดวกของผู้ปกครอง

รัฐบาลอิตาลีตั้งเป้าเพิ่มจำนวนการฉีควัคซีนป้องกันโรคไว้ที่ให้ได้อย่างน้อย 95% ตามกำหนดขององค์การอนามัยโลก จากในปัจจุบันที่กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีคาดว่ามีเด็กไม่ถึง 80% ที่ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนด ซึ่งการฉีดวัคซีนภาคบังคับ10โรคนี้รวมถึงวีคซีนไข้หวัดใหญ่วัคซีนโรคหัด โปลิโอ อีสุกอีใสและคางทูม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

หากฉีดฟรี เหตุใดจึงไม่ฉีด?

ที่อิตาลีก็เป็นเช่นเดียวกับในหลายประเทศที่ลัทธิต่อต้านวัคซีนกำลังเติบโตขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และกำลังเป็นปัญหาให้กับหลายประเทศจากความไม่เข้าใจและข่าวเกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดระหว่างบริษัทผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่กับรัฐบาล ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มักจะอ้างว่าแนวคิดการฉีดวัคซีนเป็นแผนหลอกลวงคนทั่วโลก และสร้างผลร้ายให้กับเด็กมากกว่าผลดี ทั้งๆที่โรคระบาดหลายโรคในปัจจุบันสามารถป้องกันได้ด้วยการเข้ารับวัคซีน ซึ่งแพทย์หลายคนยังคงยืนยันว่าการฉีดวัคซีนมีความจำเป็นอย่างมากเพื่อสร้างความปลอดภัยและจำกัดการระบาดของโรค รวมถึงอาจส่งผลให้ชีวิตผู้คนอื่นๆต้องตกอยู่ในความเสี่ยงด้วย