posttoday

3 ประเด็นชี้ชะตา พิพาทค้าจีน-สหรัฐ

08 มกราคม 2562

การพูดคุยรอบใหม่ระหว่างผู้นำสหรัฐและจีน มี 3 ประเด็นสำคัญน่าจับตามองความคืบหน้าต่อ ซึ่งจะปูทางสู่การคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างสองชาติ

การพูดคุยรอบใหม่ระหว่างผู้นำสหรัฐและจีน มี 3 ประเด็นสำคัญน่าจับตามองความคืบหน้าต่อ ซึ่งจะปูทางสู่การคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างสองชาติ

*********************************

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

หลังบรรลุข้อตกลงสงบศึกการค้าชั่วคราว 90 วันไปเมื่อเดือน ธ.ค. ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน พบปะกันนอกรอบการประชุมสุดยอดจี20 ทั้งจีนและสหรัฐก็หวนกลับสู่โต๊ะเจรจาแก้ข้อพิพาทการค้าอีกครั้งเมื่อวันที่ 7-8 ม.ค.

ในการเจรจาครั้งนี้ เจฟฟรีย์ เกอร์ริช รองผู้แทนการค้าสหรัฐ จะเป็นผู้นำฝ่ายสหรัฐในการเจรจากับผู้แทนระดับรัฐมนตรีช่วยของจีน โดยหลายฝ่ายมองว่าการพูดคุยล่าสุดจะเป็นไปในทิศทางบวก และช่วยวางแนวทางถกประเด็นการค้ารอบต่อไประหว่าง หลิวเฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจของจีนกับ โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ.

สำหรับการพูดคุยรอบใหม่ มี 3 ประเด็นสำคัญน่าจับตามองความคืบหน้าต่อ ซึ่งจะปูทางสู่การคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างสองชาติ

ทรัพย์สินทางปัญญา

ประเด็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ไอพี) ถือเป็นข้อพิพาทหลักระหว่างจีนและสหรัฐ เพราะที่ผ่านมาสหรัฐกล่าวหาจีนมาโดยตลอดว่าบีบให้เอกชนที่เข้าไปทำธุรกิจในประเทศต้องถ่ายโอนเทคโนโลยีให้รัฐบาล

ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จีนประกาศมาตรการหลายอย่างเพื่อแก้ปัญหาละเมิดไอพี เช่น ตั้งศาลใหม่เพื่อพิจารณาคดีด้านทรัพย์สินทางปัญญาโดยเฉพาะ และเตรียมปรับแก้กฎหมายห้ามการบีบบังคับให้เอกชนต่างชาติถ่ายโอนเทคโนโลยีให้หน่วยงานรัฐบาล หรือบริษัทในท้องถิ่น แต่มาตรการดังกล่าวก็ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรมมากนัก

หัวเว่ยและ 5จี

แม้ทางการสหรัฐเคยเปิดเผยว่า กรณีแคนาดาจับกุม เมิ่งหว่านโจว ซีเอฟโอของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ตามคำขอของสหรัฐ ไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจาแก้ข้อพิพาททางการค้า แต่เคสนี้ก็ถูกตีความว่าเป็นการจับตัวประกันเพื่อหวังสกัดอิทธิพลจีนด้าน 5จี ขณะที่สหรัฐและชาติพันธมิตร (ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส) พยายามสกัดหัวเว่ยเข้าร่วมเครือข่าย 5จี ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง

สินค้าเกษตร

สินค้าเกษตรนับเป็นเป้าโจมตีหลักอีกอย่างในศึกการค้า เพราะจีนตั้งภาษีตอบโต้กับสินค้าเกษตรสหรัฐหลายรายการ เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพด ฝ้าย และเนื้อหมู โดยบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนอาจยกเลิกภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด และภาษีต่อต้านการอุดหนุนกับกากอาหารสัตว์ของสหรัฐ ซึ่งจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่สุด รวมถึงอาจเปิดทางนำเข้าสัตว์ปีกจากสหรัฐด้วยเช่นกัน หากสองฝ่ายเจรจาการค้ารอบล่าสุดสำเร็จ

จีนกระตุ้นอินฟราครั้งใหญ่

ท่ามกลางเศรษฐกิจโตชะลอ คณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติของจีน (เอ็นดีอาร์ซี) อนุมัติโครงการสร้างทางรถไฟใหม่ใน 8 เมือง และอีกหลายมณฑล มูลค่าทั้งหมด 1.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4 ล้านล้านบาท) นับตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. เพื่อหวังกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ไชน่า เรลเวย์ คอร์ป รัฐวิสาหกิจด้านรถไฟของจีน เปิดเผยว่า จีนจะสร้างทางรถไฟใหม่ระยะทาง 6,800 กิโลเมตรภายในปีนี้ ซึ่งรวมถึงรถไฟความเร็วสูงระยะทาง 3,200 กิโลเมตร เพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อนหน้า โดยแผนเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานล่าสุดของจีน นับว่าสวนทางท่าทีเมื่อต้นปี 2018 ที่รัฐบาลยกเลิกการสร้างทางรถไฟในหลายเมืองเพื่อหวังลดหนี้รัฐบาลท้องถิ่น

ด้านสถาบันการเงิน ไอเอ็นจี จากเนเธอร์แลนด์ คาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนมีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นทางการคลังอีก 4 ล้านล้านหยวน (ราว 18 ล้านล้านบาท) ภายในปีนี้ ซึ่งจะเน้นไปที่ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อช่วยสนับสนุนภาคการผลิต