ผู้นำยูเครนประกาศกฎอัยการศึก
คาบสมุทรไครเมียตึงเครียดอีกครั้ง หลังยูเครนประกาศกฎอัยการศึก เหตุรัสเซียยึดเรือรบ-จับกุมทหารยูเครน
คาบสมุทรไครเมียตึงเครียดอีกครั้ง หลังยูเครนประกาศกฎอัยการศึก เหตุรัสเซียยึดเรือรบ-จับกุมทหารยูเครน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรยูเครนมีมติเห็นชอบให้ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน ประกาศกฎอัยการศึกเป็นเวลา 30 วัน ในพื้นที่ทะเลอะซอฟ บริเวณคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างทะเลดำ หลังจากมีความเสี่ยงในพื้นที่ว่าอาจเกิดการปะทะกันทางทหารระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังเกิดเหตุการณ์ที่หน่วยลาดตระเวนของรัสเซียเปิดฉากยิงใส่เรือรบของยูเครน โดยทางรัสเซียอ้างว่าเรือรบยูเครนได้รุกล้ำน่านน้ำของรัสเซียบริเวณคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งเป็นดินแดนที่ถูกรัสเซียผนวกรวมไปในปี 2014
รายงานระบุว่า เหตุการณ์ความขัดแย้งล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่ทางรัสเซียอ้างว่าเรือรบของยูเครน รุกล้ำน่านน้ำของรัสเซียในบริเวณนอกชายฝั่งไครเมีย พร้อมกับยึดเรือ 3 ลำซึ่งในจำนวนนี้เป็นเรือรบหุ้มเกราะขนาดเล็ก 2 ลำและเรือลากจูงอีก 1 ลำ และควบคุมตัวทหารของฝ่ายยูเครนไว้ 24 นาย
เหตุการณ์ดังกล่าวจึงนำไปสู่การที่สภาไครเมียประกาศกฎอัยการศึกเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งนับว่าเป็นการประกาศกฎอัยการศึกครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตไครเมียในปี 2014 ที่รัสเซียได้ผนวกเอาคาบสมุทรไครเมียเข้าเป็นดินแดนของตน
อย่างไรก็ดีด้านปธน.โปโรเชนโก ของไครเมีย ระบุว่า เขาไม่ต้องการให้กฎอัยการศึกมีผลต่อการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 31 มีนาคม 2019 นี้
ทั้งนี้ ความตึงเครียดของทั้งสองชาติในช่องแคบเคียร์ช ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าออกระหว่างทะเลอะซอฟ และทะเลดำนั้น มีเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากทางรัสเซียได้เข้มงวดกับเรือของยูเครนที่แล่นเข้าออกบริเวณช่องแคบเคียร์ช ซึ่งทางยูเครนระบุว่ารัสเซียได้พยายามทำลาเศรษฐกิจของยูเครน
ด้านประธานาธิบดีปูติน ของรัสเซียได้แสดงความกังวลหลังจากที่ทางยูเครนประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งอาจส่งผลให้เสี่ยงต่อการเผชิญหน้าทางทะเลของทั้งสองชาติได้ โดยนายปูตินได้เรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี เป็นกาวใจ ในการเตือนยูเครนไม่ให้ดำเนินการใดๆที่ก้าวร้าวกับรัสเซียอีก
ขณะเดียวกัน ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน บรรดากลุ่มผู้ประท้วงที่ไม่พอใจรัสเซีย ได้ออกมาเดินขบวนประท้วงบริเวณด้านหน้าสถานทูตรัสเซียในกรุงเคียฟ และห้างสรรพสินค้า โอเชี่ยน พลาซ่า ซึ่งมีเจ้าของเป็นนักธุรกิจชาวรัสเซีย ต่อประเด็นความขัดแย้งดังกล่าวด้วย