posttoday

มือซ่อนเข็มในสตรอเบอร์รี่แค้นฝังหุ่นบริษัท

13 พฤศจิกายน 2561

อดีตหัวหน้าคนงานหญิงของฟาร์ม ระบุสาเหตุซ่อนเข็มในสตรอเบอร์รี่ เพราะโกรธแค้นบริษัทที่ปฏิบัติไม่ดี หวังแก้แค้นให้เจ๊ง

อดีตหัวหน้าคนงานหญิงของฟาร์ม ระบุสาเหตุซ่อนเข็มในสตรอเบอร์รี่ เพราะโกรธแค้นบริษัทที่ปฏิบัติไม่ดี หวังแก้แค้นให้เจ๊ง

จากกรณีผวาพบเข็มเย็บผ้าซ่อนอยู่ในผลสตรอเบอร์รี่ซึ่งวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ประเทศออสเตรเลีย จนเป็นข่าวใหญ่เมื่อ 2 เดือนก่อน หลังเริ่มระบาดในรัฐควีนส์แลนด์เป็นแห่งแรก ก่อนจะแพร่กระจายไปอีกหลายรัฐ จนมีผู้เคราะห์ร้ายกลืนเข็มลงคอ สร้างความหวาดผวาไปทั่วทั้งประเทศ

ล่าสุด ตำรวจออสเตรเลียสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แล้วเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา คือ มีอูจินห์ วัย 50 ปี อดีตหัวหน้าคนงานหญิงของฟาร์มเบอร์รี ลิสเชียส และเบอร์รี ออบเซสชั่น ในรัฐควีนส์แลนด์ อดีตผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามซึ่งอาศัยอยู่ในออสเตรเลียมานานกว่า 20 ปีแล้ว

ตำรวจรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียระบุว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแส จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามสืบหาตัวคนร้ายมือซ่อนเข็มนานกว่า 2 เดือน กระทั่งพบหลักฐานมัดตัว เป็นผลดีเอ็นเอ (DNA) ของอดีตหัวหน้าคนงานหญิง ซึ่งตรงกับเข็มเย็บผ้าเล่มแรกที่ซ่อนอยู่ในสตรอเบอร์รี่ของฟาร์มเบอร์รีลิสเชียส และเบอร์รี ออบเซสชั่น จนนำไปสู่การจับกุมมีอูจินห์

จินห์ถูกนำตัวขึ้นศาลชั้นต้น ในเมืองบริสเบนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 พ.ย. 2561) เธอให้การว่า โกรธแค้นบริษัทที่ปฏิบัติไม่ดีกับเธอ และต้องการแก้แค้นให้ธุรกิจเสียหาย โดยเธอได้บอกกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ว่าจะทำให้บริษัทเจ๊งและออกไปจากวงการธุรกิจ จึงลงมือซ่อนเข็มในผลสตรอเบอร์รี่ จนนำไปสู่พฤติกรรมการเลียนแบบที่พบทั่วประเทศกว่า 100 เคส รวมถึงผลไม้อื่นๆ ทั้งกล้วย แอปเปิล และมะม่วง ก็พบว่ามีเข็มเย็บผ้าซ่อนอยู่เช่นกัน สร้างความหวาดผวาแก่ผู้บริโภค

ตำรวจตั้งข้อหาจินห์ 7 กระทง ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการทำให้อาหารปนเปื้อน ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี แต่หลังจากเกิดเรื่องรัฐบาลออสเตรเลียมีประกาศเพิ่มโทษ ทำให้เธออาจต้องเจอโทษจำคุกสูงสุด 10-15 ปี ขณะที่ระหว่างอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคดี จินห์ไม่ได้รับการอนุญาตจากศาลให้ประกันตัว โดยจะขึ้นศาลครั้งต่อไป ในวันที่ 22 พ.ย.นี้

ด้านสมาคมผู้ปลูกสตรอเบอร์รี่ของรัฐควีนส์แลนด์ ระบุว่า เป็นข่าวดีอย่างมากที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้ แต่ผู้ที่มีพฤติกรรมลอกเลียนแบบก็ควรจะถูกจับและได้รับโทษด้วยเช่นกัน โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีสะเทือนขวัญทุกราย

ทั้งนี้ กระแสหวาดกลัวสตรอเบอร์รี่ซ่อนเข็มในขณะนั้น ทำให้อุตสาหกรรมปลูก-ขายสตรอเบอร์รี่ในออสเตรเลีย ซึ่งสร้างรายได้ประมาณ 130 ล้านเหรียญออสเตรเลียต่อปี ( ประมาณ 3,100 ล้านบาท) ได้รับผลกระทบอย่างหนัก สตรอเบอร์รี่ถูกเรียกคืนจากซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงบริษัทนำเข้าสตรอเบอร์รี่รายใหญ่สุดในนิวซีแลนด์ 2 บริษัทก็ระงับการนำเข้าสตรอเบอร์รี่ออสเตรเลียเพื่อเฝ้าระวัง จนเกษตรกรได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน

ที่มา www.m2fnews.com