posttoday

ศาลสูงอินโดฯ พิพากษายืน สั่งจำคุกหญิงชาวพุทธร้องมัสยิดเสียงดัง

26 ตุลาคม 2561

ศาลอุทธรณ์อินโดฯ มีคำตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น กรณีจำคุกหญิงชาวพุทธร้องเรียนมัสยิดละหมาดเสียงดัง

ศาลอุทธรณ์อินโดฯ มีคำตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น กรณีจำคุกหญิงชาวพุทธร้องเรียนมัสยิดละหมาดเสียงดัง

จากกรณีที่วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลในเมืองเมดาน บนเกาะสุมาตรา มีคำตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน (18 เดือน) แก่ นางเมเลียนา วัย 44 ปี สตรีชาวพุทธเชื้อสายจีน ด้วยความผิดดูหมิ่นศาสนาอิสลาม จากการที่ก่อนหน้านี้เมื่อราว 2 ปีก่อนเธอได้ร้องขอให้มัสยิดที่อยู่ใกล้บ้านเธอ ลดความดังของลำโพงลงในเวลาที่มัสยิดสวดละหมาดในแต่ละวัน เนื่องจากเธอรู้สึกแสบแก้วหูนั้น

 

ศาลสูงอินโดฯ พิพากษายืน สั่งจำคุกหญิงชาวพุทธร้องมัสยิดเสียงดัง

 

ล่าสุดสำนักข่าวเอพีรายงานว่า ศาลสูงของอินโดนีเซียประจำเมืองเมดาน ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ให้มีคำตัดสินยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ตัดสินจำคุกเธอเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือนตามคำตัดสินที่มีไปก่อนหน้านั้น ในฐานความผิดหมิ่นศาสนา

รายงานระบุว่าด้านทนายความส่วนตัวของเธอนั้นเผยว่าหลังจากนี้จะเตรียมยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลฎีกาต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับกรณีของนางเมไลน่านั้น เมื่อสองปีก่อนเธอได้ร้องเรียนไปยังมัสยิดใกล้บ้านให้ช่วยลดเสียงการประกาศสวดอาซานซึ่งมีขึ้นวันละ 5 เวลาลง แต่หลังจากนั้นได้เกิดกระแสข่าวลือในหมู่ชาวบ้านที่นับถืออิสลามว่า เธอต้องการให้มัสยิดเลิกประกาศ จนส่งผลให้หลังจากนั้นกลุ่มชาวมุสลิมที่ไม่พอใจ บุกเข้าทำลายบ้านของเธอ พร้อมทั้งทำลายวัดพุทธอย่างน้อย 14 แห่งในพื้นที่จนกลายเป็นเหตุจลาจล

 

ศาลสูงอินโดฯ พิพากษายืน สั่งจำคุกหญิงชาวพุทธร้องมัสยิดเสียงดัง

 

แม้ว่าทางด้านองค์กรมุสลิมในประเทศอินโดนีเซียระบุว่า การร้องเรียนของเธอนั้นไม่ได้เป็นการหมิ่นศาสนาแต่อย่างใด แต่กลุ่มมุสลิมหัวอนุรักษ์นิยมระบุว่าคำร้องของเธอนั้นเป็นการหมิ่นศาสนาอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า นางเมไลน่า ไม่ได้มาเข้ารับฟังคำตัดสินดังกล่าว โดยกลุ่มผู้สนับสนุนเธอระบุว่า เธอถูกคุมขังอยู่ในห้องขังขนาด 30 ตร.ม. รวมกับผู้หญิงอีกหลายสิบคน ส่งผลให้ทางด้านสามีและลูกๆต่างกังวลถึงความปลอดภัยของเธออย่างมาก