แอมเนสตี้ญี่ปุ่นชี้ประหารเจ้าลัทธิ "โอมชินริเกียว" ไม่ช่วยคืนความยุติธรรม

"ประหารชีวิตไม่สามารถคืนความยุติธรรมได้" แอมเนสตี้ออกแถลงการระบุโทษประหารไม่ใช่คำตอบ หลังญี่ปุ่นสั่งแขวนคอเจ้าลัทธิโอมชินริเกียว

องค์กรนิรโทษกรรมสากล หรือ แอมเนสตี้ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการตัดสินโทษประหารชีวิตด้วยวิธีแขวนคอ นาย"โชโกะ อาซาฮาระ" เจ้าลัทธิ "โอมชินริเกียว" หลังจากที่ลัทธิของเขาอยู่เบื้องหลังการปล่อยแก๊สพิษซารินในสถานีรถไฟฟ้าของญี่ปุ่นเมื่อ 1995 จนมีผู้เสียชีวิต 13 ราย และได้รับบาดเจ็บกว่า 6 พันคน

แถลงการณ์ของแอมเนสตี้ระบุว่า "เราเรียกร้องกระบวนการยุติธรรม แต่ต้องเคารพในสิทธิมนุษยชนของทุกคนด้วย การประหารชีวิตไม่สามารถคืนความยุติธรรมให้กับใครได้ แต่เป็นการปฎิเสธสิทธิมนุษยชนอย่างที่สุด" นายฮิโรกะ โชจิ นักวิจัยของแอมเนสตี้กล่าว

"การก่อเหตุดังกล่าวได้กลายเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น การโจมตีของลัทธิโอมชินริเกียว เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ และสมควรได้รับการลงโทษ แต่อย่างไรก็ตาม โทษประหารชีวิตไม่ใช่คำตอบ"

นอกจากนี้ทางแอมเนสตี้ยังระบุว่า รัฐบาลควรเลิกทำตามคำเรียกร้องของประชาชนญี่ปุ่นที่เรียกร้องโทษประหาร และควรแสดงจุดยืนด้านสิทธิมนุษยชนแทน

ทั้งนี้ สำหรับการประหารนายอาซาฮาระ เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มที่ถูกศาลญี่ปุ่นสั่งประหารด้วยวิธีการแขวรคอ ร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆของลัทธิอีก 6 ราย โดยเหตุที่การลงโทษประหารชีวิตกินเวลายาวนานถึง 23 ปี เนื่องจากต้องการให้ผู้ต้องหาต่อสู้ด้วยกระบวนการยุติธรรมจนศาลสูงสุด

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันนี้ยังคงมีสมาชิกของกลุ่มบางส่วนที่ศรัทธานายอาซาฮาระอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังจับตาความเคลื่อนไหวเพื่อป้องกันการก่อเหตุตอบโต้การประหารชีวิต