รู้จักที่มาของ "วันสตรีสากล" กับ 5 เรื่องราวที่ผู้หญิงควรรู้
8 มีนาคม วันสตรีสากล : ประวัติศาสตร์ การประท้วงและการเฉลิมฉลอง
8 มีนาคม วันสตรีสากล : ประวัติศาสตร์ การประท้วงและการเฉลิมฉลอง
วันสตรีสากล หรือ International Women's Day แต่เดิมมีชื่อเรียกว่า "วันแรงงานสตรีสากล" โดยมีการจัดงานขึ้นทุกวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี ความสำคัญของวันนี้มีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองและให้ความสำคัญต่อผู้หญิงทุกคนบนโลกที่มีต่อความสำเร็จทางเศรษฐกิจและภาคสังคมทั่วไป
1.จุดเริ่มต้นของแนวคิดวันสตรีสากล
สำหรับประวัติศาสตร์ของวันสตรีสากล เริ่มจากบรรดาแรงงานหญิงในโรงงานทอผ้า รัฐนิวยอร์กของสหรัฐ โดยในช่วงปี 1907 บรรดาแรงงานหญิงราว 15,000 พากันลุกฮือและเดินขบวนในนครนิวยอร์ก เพื่อประท้วงต่อความไม่เป็นธรรมในด้านชั่วโมงการทำงาน ค่าจ้าที่ไม่เป็นธรรม รวมไปถึงสิทธิ์ในการเลือกตั้ง โดยมีแกนนำอย่าง Theresa Malkiel ซึ่งเป็นแนวคิดของพรรคสังคมนิยมในสหรัฐ โดยในปีต่อมาทางพรรคสังคมนิยมแห่งสหรัฐมีการประกาศให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปีมีการชุมนุมของบรรดาแรงงานหญิงที่ได้รับความไม่เป็นธรรม
แนวคิดนี้มาจาก Clara Zetkin นักการเมืองสตรีสายแนวคิดสังคมนิยม เชื้อสายเยอรมันตัดสินใจปลุกระดมเหล่ากรรมกรสตรีด้วยการนัดหยุดงานในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1907 พร้อมกับเรียกร้องให้นายจ้างลดเวลาการทำงานลงเหลือวันละ 8 ชั่วโมง อีกทั้งให้ปรับปรุงสวัสดิการทุกอย่าง และให้สตรีมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งด้วยแต่ทว่าการประท้วงครั้งนั้นกลับไม่สำเร็จและถูกทางการสลายการชุมนุมพร้อมจับตัวแรงงานหญิงหลายคน แต่การประท้วงครั้งนั้นได้จุดประกาย
จนกระทั้งวันที่ 8 มีนาคม 1910 ในการประชุมสมัชชาแรงงานสตรีที่กรุงโคเปนเฮเกน ของประเทศเดนมาร์ก มีการลงนามรับรองจากตัวแทนแรงงานหญิง 100 คน จากทั้งหมด 17 ประเทศกำหนดให้ยึดเอาวันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็น "วันเพื่อจัดกิจกรรมประท้วงและรณรงค์ถึงความไม่เท่าเทียมของผู้หญิง"
ต่อมาในปี 1911 มีการจัดงานดังกล่าวอย่างเป็นทางการในหลายประเทศเช่น ออสเตรีย เดนมาร์ก เยอรมนี และสวิสเซอร์แลนด์ และในปี 2011 มีการจัดงานครบรอบ 100 ปีของวันสตรีสากลซึ่งในปี 2018 นี้ถือเป็นการครบรอบวันสตรีสากลครั้งที่ 107
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1975 นั้นถือว่าเป็นก้าวสำคัญ เมื่อสหประชาชาติเริ่มเห็นความสำคัญของวันนี้และมีการจัดงานอย่างเป็นทางการโดยสหประชาติ ดังนั้นวันสตรีสากลจึงกลายเป็นวันที่จะเฉลิมฉลองถึงการมีส่วนรวมของบรรดาสตรีมีในภาคสังคม การเมืองและเศรษฐศาสตร์ ซึ่งแตกต่างจากรากเหง้าของวันสตรีสากลในช่วงทศวรรษแรก ที่แนวคิดของวันสตรีสากลมีเพื่อการประท้วง และเพื่อสร้างความตระหนักถึงความไม่เสมอภาคอย่างต่อเนื่อง
2. ทำไมต้อง 8 มีนาคม?
สำหรับวันสตรีสากลในความคิดของ Clara Zetkin ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็น "วันสตรีสากล" แต่เป็นเพียงแนวคิดถึงการชุมนุมของบรรดาแรงงานหญิงที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในทุกวันที่ 8 ของเดือนมีนาคมเท่านั้น
จนกระทั้งมีการประท้วงเพื่อโค่นล้มระบบซาร์ในรัสเซียเมื่อปี 1917 เมื่อมีผู้หญิงรายหนึ่งตะโกนว่า "เราต้องการเพียงขนมปังและสันติภาพ" ซึ่งหลังโค่นล้มระบบซาร์แล้ว รัฐบาลเฉพาะกาลของรัสเซียได้ให้สิทธิสตรีรัสเซียในการลงคะแนนเสียง
ซึ่งวันสตรีของรัสเซียมีการเริ่มต้นประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมในการลงคะแนนโหวตเลือกตั้งและสิทธิ์ในด้านอื่นๆนั้นตรงกับวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ตามปฏิทินเกรกอเรียน ซึ่งก็คือตรงกับวันที่ 8 มีนาคม
3. แล้วมีวันบุรุษสากลหรือไม่?
คำตอบคือวันที่ 19 พฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งมีการปรากฎครั้งแรกในปฏิทินตั้งแต่ปี 1990 แต่ทว่าไม่ได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติ เนื่องจากหลายฝ่ายเห็นว่าผู้ชายนั้นได้รับสิทธิ์หลายอย่างเหนือกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว
ทั้งนี้ถึงอย่างไรก็ดีผู้ชายกว่า 60 ประเทศทั่วโลกรวมถึงในสหราชอาณาจักร มีการเฉลิมฉลองวันนี้ โดยจุดประสงค์ของวันบุรุษสากลต่างจากวันสตรีสากลตรงที่ "ให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้ชายและเด็กผู้ชาย ปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างเพศส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและเน้นรูปแบบบทบาทชายรักชาย" ซึ่งธีมของงานในปี 2017 ที่ผ่านมา คือ 'ฉลองความสัมพันธ์แบบชายและชาย'
4. ความสำคัญของวันสตรีสากลทั่วโลกเป็นอย่างไร
วันสตรีสากลนั้นถือเป็นวันหยุดในหลายประเทศที่มีแนวคิดแบบสังคมนิยมมาก่อน เช่นในรัสเซีย มีรายงานว่ายอดขายดอกไม้พุ่งสูงในช่วงสามวันแรกก่อนวันสตรีสากล โดยในวันที่ 8 มีนาคมนั้นผู้ชายจะมอบดอกไม้ให้กับหญิงคนรักและบรรดาเพื่อนรวมงานของพวกเขา
ส่วนจีนในวันนี้ผู้หญิงหลายคนได้รับสิทธิ์ให้สามารถทำงานแค่ครึ่งวันได้ ตามประกาศของทางการ ขณะที่อิตาลีเรียกวันสตรีสากลว่า La Festa della Donna มีการเฉลิมฉลองด้วยการให้ดอกไมยราบสีเหลือง ต้นกำเนิดของประเพณีนี้ไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าเริ่มขึ้นในกรุงโรมหลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ส่วนที่สหรัฐเดือนมีนาคมเป็นเดือนประวัติศาสตร์ของสตรี (Women's History Month) คำประกาศของประธานาธิบดีที่ออกทุกปีเป็นเกียรติแก่ความสำเร็จของสตรีชาวอเมริกัน
5. วันสตรีสากลของปีนี้มีอะไรพิเศษ
สำหรับวันสตรีสากลในปีนี้จัดขึ้นในแนวคิด #PressForProgress ซึ่งมาจากกระแสการประท้วงของสตรีหลายพันคนในปีที่แล้วทั้งในสหรัฐและทั่วโลก ที่พากันออกมาชุมนุมตามท้องถนนเพื่อสนับสนุนสิทธิสตรีหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ซึ่งที่ผ่านมานายทรัมป์มักมีภาพพจน์ต่อผู้หญิงที่ไม่ค่อยดีนักรวมไปถึงการแส #Metoo จากกรณีการถูกล่วงละเมิดทางเพศของนักแสดงฮอลีวู้ดหลายคนซึ่งนำไปสู่การออกมาเปิดเผยเรื่องราวของหญิงที่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศจนเป็นกระแสดังในโลกโซเชียลมีเดีย