"ทรัมป์"หั่นภาษีเอกชนสู่15%

ทรัมป์เตรียมหั่นภาษีเหลือ 15% จ่อปะทะพรรครีพับลิกันอีก จากความกังวลทำหนี้สาธารณะพุ่ง  ขณะพาณิชย์เปิดศึกการค้าแคนาดา

ด้านซีเอ็นเอ็นระบุว่า การปรับลดดังกล่าวอาจสร้างความไม่พอใจให้กับพรรค รีพับลิกันที่ครองเสียงส่วนใหญ่ทั้งสองสภาของสหรัฐ เนื่องจากมีแนวโน้มจะทำให้หนี้สาธารณะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยก่อนหน้านี้ ศูนย์ศึกษานโยบายภาษีเปิดเผยเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา แผนการปรับลดภาษีเหลือ 15% ของทรัมป์ จะทำให้รายได้ภาครัฐลดลง 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 84 ล้านล้านบาท) ในอีก 10 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ บลูมเบิร์กรายงานว่า การปรับลดภาษีของทรัมป์ยังมากกว่าภาษีที่พรรครีพับลิกัน นำโดยพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ต้องการที่ 20% และการปฏิรูปภาษีของทรัมป์อาจไม่รวมถึงการใช้ภาษีสินค้าชายแดนจำแนกตามประเภท (BAT) ซึ่งจะเก็บภาษีสำหรับการนำเข้า 20% และละเว้นภาษีสำหรับการส่งออก

ทั้งนี้ การเปิดเผยแผนปฏิรูปภาษีของทรัมป์ในวันนี้ ยังมาในช่วงสัปดาห์ที่สภาคองเกรสจะต้องพูดคุยเพื่อหาทางออกงบประมาณในส่วนที่เหลือสำหรับสิ้นเดือน เม.ย.เป็นต้นไป ถึงเดือน ก.ย. ที่เป็นจุดสิ้นสุดของปีงบประมาณ โดยมีเส้นตายในวันที่ 28 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็น 1 วันก่อนหน้าวันครบรอบ 100 วัน ในฐานะประธานาธิบดีของทรัมป์

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศเตรียมตั้งภาษีอากรตอบโต้กรณีแคนาดาให้การอุดหนุนผู้ส่งออกสินค้ามายังสหรัฐระหว่าง 3-24.1% กับสินค้าประเภทไม้แปรรูปของแคนาดา ซึ่งเป็นสินค้าที่ทั้งสองประเทศมีปัญหากันมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ช่วงปี 1980

สำหรับป่าไม้เนื้ออ่อนแคนาดาส่วนใหญ่มีรัฐบาลท้องถิ่นเป็นเจ้าของ โดยรัฐบาลท้องถิ่นจะเป็นผู้กำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับการตัดไม้ โดยผู้ผลิตสหรัฐระบุว่า ค่าธรรมเนียมดังกล่าวต่ำกว่าราคาตลาด และสร้างความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน ซึ่งแคนาดาไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหา

"แคนาดาจะปกป้องผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมไม้แปรรูปเนื้ออ่อน ของแคนาดา ซึ่งรวมถึงการฟ้องร้องทางกฎหมาย" คริสเตีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ จิม คาร รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติแคนาดา เปิดเผยในแถลงการณ์ร่วม และระบุว่า การเจรจายังเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองชาติ