ฝรั่งเศสเหลวเข้มก่อการร้าย

ฝรั่งเศสเข้มก่อการร้ายรับเลือกตั้ง เผยผู้ก่อเหตุยิงตำรวจเสียชีวิต 1 คน อยู่ในรายชื่อเฝ้าระวัง หวั่นเป็นปัจจัยพลิกโฉมเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า ชายผู้ก่อเหตุยิงตำรวจในถนนฌ็องเซลิเซ่ ใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีรายชื่ออยู่ในบัญชีเฝ้าระวัง "ฟิช เอส" ซึ่งระบุตัวผู้มีแนวโน้มมีแนวคิดลัทธิสุดโต่งและเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า ศาลเคยตัดสินจำคุกชายผู้ก่อเหตุ 15 ปี จากข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฝึกหัดและญาติของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เมื่อปี 2005

ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเช้าของคืนวันเกิดเหตุ รอยเตอร์สรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสออกหมายจับบุคคลอันตรายที่เดินทางมาจากเบลเยียมด้วยรถไฟเข้ามายังฝรั่งเศส โดยเจ้าหน้าที่ได้ตามล่าบุคคลดังกล่าวหลังเกิดเหตุที่ถนนฌ็องเซลิเซ่ ก่อนกระทรวงมหาดไทยจะระบุว่า มีผู้ต้องสงสัยหนึ่งรายมอบตัวกับทางตำรวจเบลเยียมแล้ว โดยไม่ระบุเป็นผู้เดียวกับหมายจับหรือไม่

เหตุการณ์ยิงตำรวจเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของฝรั่งเศสของวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายขับรถมาจอดเทียบรถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่บริเวณถนนฌ็องเซลิเซ่ ก่อนออกมายิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว และถูกวิสามัญระหว่างหลบหนี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 ราย เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว ขณะที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกในวันที่ 23 เม.ย.ที่จะถึงนี้ โดยบรรดาผู้สมัครต่างได้รับแจ้งเตือนการก่อเหตุในช่วงเวลาดังกล่าว และฝรั่งเศสเพิ่มกำลังตำรวจ 5 หมื่นนาย และทหารอีก 7,000 นาย รองรับการเลือกตั้ง ขณะที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกค้นบ้านพักในเมืองมาร์กเซย์ และพบปืนกล ปืนพก รวมถึงระเบิดทำมืออีก 3 กิโลกรัม

การก่อเหตุครั้งนี้ คาดจะส่งผล กระทบต่อการเลือกตั้งดังกล่าว โดย จิม บิตเตอร์แมน บรรณาธิการซีเอ็นเอ็นของปารีส เปิดเผยว่า หากผู้ก่อเหตุอยู่ในรายชื่อ ฟิช เอส จริง จะทำให้สาธารณชนและนักการเมืองบางคนตั้งคำถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้

มารีน เลอเปน ผู้สมัครที่มีแนวคิดขวาจัดต่อต้านสหภาพยุโรป (อียู) และผู้อพยพ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเก็งที่จะทะลุเข้าไปสู่รอบชิงในวันที่ 7 พ.ค. เคยเปิดเผยว่าฝรั่งเศสต้องขับไล่ผู้ที่เผยแพร่แนวคิดรุนแรงและอยู่ในรายชื่อ ฟิช เอส ออกนอกฝรั่งเศส

ทั้งนี้ ผลสำรวจจัดทำโดยเอลาบก่อนเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่า หากเลอเปนเข้าชิงกับเอ็มมานูเอล มาครอง ผู้สมัครที่มีแนวคิดกลาง เลอเปนจะพ่ายมาครองที่นำอยู่มากถึง 65% ต่อ 35%