posttoday

ศักยภาพแข่งขันไทยร่วงติดต่อกันเป็นปีที่2

17 มกราคม 2560

อันดับความสามารถทรัพยากรมนุษย์ของไทยร่วงต่อ 2 ปีติด เหตุผลงานในหลายด้านยังแย่

อันดับความสามารถทรัพยากรมนุษย์ของไทยร่วงต่อ 2 ปีติด เหตุผลงานในหลายด้านยังแย่

อินซีด มหาวิทยาลัยชั้นนำด้านธุรกิจระหว่างประเทศ ร่วมกับสถาบันพัฒนาความเป็นผู้นำด้านทรัพยากรมนุษย์ของสิงคโปร์ (เอชซีแอลไอ) และกลุ่มบริษัท อเดคโก เปิดเผยดัชนีวัดความสามารถในการแข่งขันการผลิต ดึงดูด และรักษาคนเก่ง (จีทีซีไอ) ประจำปี 2017 ซึ่งศึกษาจาก 118 ประเทศทั่วโลก พบว่า อันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยนั้นปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 73 ในปีนี้ จาก 69 ในปี 2016 ซึ่งลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เมื่อเทียบกับปี 2015 ซึ่งอยู่ที่ 61

ทั้งนี้ ไทยได้คะแนนโดดเด่นที่สุดในด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 21 เมื่อเทียบกับทั่วโลก ขณะที่คะแนนในหัวข้อสภาพแวดล้อมด้านการกำกับดูแลเพิ่มขึ้นแตะอันดับที่ 72 จาก 80 เช่นเดียวกับความมีประสิทธิภาพของรัฐบาลและเสถียรภาพทางการเมือง

ขณะเดียวกัน คะแนนด้านสภาวะทางธุรกิจของไทยปรับขึ้น 2 หัวข้อ โดยเฉพาะการยอมให้ต่างชาติเข้าถึงภาคธุรกิจ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาสูงมากอยู่ที่อันดับ 75 จาก 98 ด้านการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการที่เพิ่มขึ้นมาเช่นกันอยู่ที่อันดับ 52 จาก 53

นอกจากนี้ ไทยยังคงทำผลงานได้ดีในด้านการสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนาของไทย รวมถึงการเพิ่มจำนวนนักวิจัย และปรับคุณภาพของสถาบันทางวิทยาศาสตร์ โดยคะแนนใน 3 หัวข้อดังกล่าวปรับขึ้นมาจากปีก่อนหน้านี้

สำหรับคะแนนด้านความยั่งยืนทางสังคมปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 67 จาก 79 เช่นเดียวกัน ระบบบำเหน็จบำนาญและการจัดเก็บภาษี ด้านทักษะการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ของแรงงานไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยมาอยู่ที่อันดับ 44 จาก 45

ทั้งนี้ สวิตเซอร์แลนด์ ยังคงรั้งอันดับ 1 ในดัชนีเป็นปีที่สองติดต่อกัน เช่นเดียวกับสิงคโปร์ซึ่งรักษาที่ 2 ไว้ได้ ขณะที่อันดับสูงสุดอื่นๆ มีการเปลี่ยนแปลง โดยอังกฤษเลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ตามด้วยสหรัฐ ที่ครองอันดับ 4 และสวีเดนอยู่ที่อันดับ 5 

ขณะที่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนียแล้ว ไทยอยู่ในอันดับกลางๆ โดยมาเลเซียครองอันดับที่ 28 ฟิลิปปินส์อยู่อันดับที่ 52 ขณะที่เวียดนามและอินโดนีเซียยังคงตามหลังไทย โดยอยู่ที่อันดับ 86 และ 90 ตามลำดับ

ภาพ...เอเอฟพี