posttoday

เที่ยวบรูไน... กับฟ้าใสๆ และไม้เขียวๆ

15 ธันวาคม 2561

ทีมงานโลก 360 องศา

ทีมงานโลก 360 องศา

facebook: โลก 360 องศา, youtube:โลก 360 องศา

 

นอกเหนือไปจากความมั่งคั่งร่ำรวยของประเทศบรูไนที่มักจะเป็นสิ่งแรกเมื่อพูดถึงประเทศนี้แล้ว อีกอย่างหนึ่งที่เป็นสิ่งสำคัญและเป็นเรื่องราวที่คนมักจะพูดถึงต่อมานั่นคือ กว่า 70% ของประเทศนี้เป็นพื้นที่สีเขียวปกคลุมไปด้วยป่าไม้ และได้รับความสำคัญจากรัฐบาลในการดูแลพื้นที่สีเขียวเหล่านี้อีกด้วย

ดังนั้น เรื่องหนึ่งที่เมื่อมาถึงบรูไนแล้วไม่ควรพลาดอย่างยิ่งคือการไปเที่ยวป่า ทำกิจกรรมสนุกๆ และเพลิดเพลินไปกับการได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทีมงานโลก 360 องศา ชวนกันเดินทางออกจากเมืองหลวงกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน อีกครั้ง

ใกล้ๆ เมืองหลวงประมาณ 20 นาที มีกิจกรรมสนุกๆ ที่ Lugu Lake ทะเลสาบขนาดย่อม โอบล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียว และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติได้แบบใกล้ชิดด้วยกิจกรรมพายเรือโดยมีการจัดเตรียมทั้งอุปกรณ์และผู้ฝึกสอนไว้พร้อม จากนั้นก็ชวนกันพายเรือออกจากฝั่ง เพื่อเที่ยวชมธรรมชาติงดงามที่โอบล้อมทะเลสาบแห่งนี้ นับเป็นประสบการณ์สนุกๆ ที่น่าลองสำหรับผู้มาเยือน

เที่ยวบรูไน... กับฟ้าใสๆ และไม้เขียวๆ

หลังจากนั้นก็ได้เวลาไปพบของจริง ที่ต้องอาศัยการเดินทางที่เรียกว่าหลายต่อสักหน่อย นั่นคือการเดินทางสู่ Ulu Temburong National Park อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศบรูไน ที่เรียกได้ว่าคนชอบธรรมชาติมาที่นี่แล้วจะต้องติดใจไปตามๆ กันเลยทีเดียว

การเดินทางสู่ Ulu Temburong National Park ต้องนั่งเรือจากกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน และเนื่องจากระหว่างเส้นทางของแม่น้ำนั้น ผ่านเข้าสู่ประเทศมาเลเซียด้วย ดังนั้นในระหว่างการเดินทางจึงต้องเดินทางออกจากบรูไน เข้าสู่มาเลเซีย และเข้าสู่ประเทศบรูไน อีกครั้ง นับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่และชวนให้ตื่นเต้น

เมื่อถึงท่าเรือ พวกเราต้องนั่งรถต่อไปจนกระทั่งสุดทาง แล้วก็ได้ข้อมูลว่าจากนี้ไปเราจะต้องลงเรือเพื่อต่อไปยังที่พัก ระหว่างทางก็มีสายฝนโปรยปรายเป็นระยะตามประสาป่าฝนเขตร้อนของเกาะบอร์เนียว แต่ก็ทำให้ชุ่มชื่นเย็นสบาย กระทั่งในที่สุดเราก็เดินทางถึง AZ Back to nature camp ซึ่งเป็นหนึ่งในสองแห่งของรีสอร์ทที่มาถึงได้เพียงทางเรือเท่านั้น

หลังเก็บสัมภาระเสร็จเรียบร้อย ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ โอบล้อมด้วยผืนป่า และแม่น้ำ Temburong ที่ไหลผ่านหน้าที่พัก เจ้าบ้านก็เริ่มต้นกิจกรรมสนุกๆ ทันที ด้วยการบอกให้พวกเราเตรียมลงเรือ เพื่อมุ่งหน้าสู่น้ำตกเล็กๆ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ที่พัก

เที่ยวบรูไน... กับฟ้าใสๆ และไม้เขียวๆ

ใครที่คิดวาเงียบสงบแล้วจะไม่มีอะไรทำ ต้องรีบเปลี่ยนความคิดในทันที เพราะเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว มีทางเลือกมากมาย ตั้งแต่นั่งเล่นชมธรรมชาติสวยๆ หน้าที่พัก ดูสายน้ำไหลแบบเพลินๆ หรือจะนั่งเรือไปเที่ยวน้ำตกที่มีกิจกรรมสนุกๆ รออยู่ก็ได้

น้ำตกเล็กๆ ที่พวกเรามาถึง ไม่ได้สวยงามยิ่งใหญ่อลังการ หากแต่มีเสน่ห์ของธรรมชาติซุกซ่อนอยู่ นั่นคือ สปาปลา เป็นความรู้สึกและประสบการณ์ที่ต้องลองด้วยตัวเองเท่านั้น เพราะทุกครั้งที่ก้าวเท้าลงไปในน้ำ เหล่าปลาตัวเล็กตัวน้อยก็จะกรูกันเข้ามาตอดที่เท้า คนที่ชื่นชอบก็เพลิดเพลิน ส่วนคนที่ไม่เคยลองก็ลองแล้วสะดุ้งกันสนุกสนานทีเดียว

ตกกลางคืนหากใครยังไม่เหนื่อย เจ้าบ้านก็ชวนออกไปสำรวจเรื่องราวของเหล่าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ในเวลากลางคืน ก่อนจะกลับมาหลับสนิทในเรือนไม้ไผ่ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายตลอด เพื่อรอตื่นไปพบกับเช้าวันพรุ่งที่มีเรื่องราวดีๆ รออยู่

พวกเราตื่นเช้าตามเวลาที่ได้นัดหมายกับเจ้าบ้านไว้ มุ่งหน้าสู่ไฮไลต์ของ Temburong นั่นคือการขึ้นไปบนทางเดินลอยฟ้าเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นก็ต้องผ่านการเดินขึ้นบันได กว่า 750 ขั้น ก่อนจะถึงหอคอยที่มีอีก 200 ขั้น รออยู่บันไดทางขึ้นไปชมด้านบนนั้น อยู่ที่หอคอยแรก จะมีทางเดินลอยฟ้า เชื่อมจากหอคอยแรกไปยังอีก 4 หอคอยที่เหลือ คนที่ขึ้นไปแล้วก็จะต้องเดินไปเรื่อยๆ เพื่อไปให้ถึงหอคอยที่ 5 ซึ่งมีบันไดลง เพราะฉะนั้นงานนี้จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่พิสมัยความสูง แต่สำหรับคนที่ขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว ต้องเรียกว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มจริงๆ กับภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า

เที่ยวบรูไน... กับฟ้าใสๆ และไม้เขียวๆ

ถึงแม้อาจจะไม่ได้เห็นภาพตอนพระอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้าพอดี แต่ว่าภาพของทะเลหมอกที่เคลื่อนตัวผ่านยอดไม้ ป่าที่เขียวชอุ่มที่อยู่เบื้องหน้า ก็สวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว แม้จะไม่ได้เห็นแสงแรกจากพระอาทิตย์ขึ้น แต่เราได้ชื่นชมความงดงามยามรุ่งอรุณของที่นี่ ซึ่งต้องบอกว่าภาพเหล่านี้จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมสำหรับคนที่มีโอกาสได้มาเยือนจริงๆ

หลังปล่อยให้ชื่นชมบรรยากาศยามเช้าจนพอใจแล้ว เจ้าบ้านก็เชิญชวนให้พวกเราไปยังน้ำตกอีกแห่งที่อยู่ใกล้ๆ กัน และแม้ว่าเส้นทางสู่น้ำตก อาจจะไม่ค่อยสะดวกสบายนัก แต่เมื่อไปถึงจุดหมายแล้วทีมงานทุกคนต่างก็อดใจไม่ไหวกับน้ำใสไหลเย็นตรงหน้า โดดลงเล่นน้ำกันอย่างเพลิดเพลิน

เมื่อกลับถึงที่พักได้เวลาอาหารมื้อเที่ยงสุดพิเศษ ที่เจ้าบ้านลงมือสอนพวกเราทำด้วยตัวเอง นั่นคือ Bamboo Chicken หรือที่ภาษาบรูไนเรียกว่า Ayam Panso หากเป็นบ้านเราก็คือ ไก่ในกระบอกไม้ไผ่ นั่นเอง งานนี้นอกจากจะได้เรียนรู้กรรมวิธีแล้ว ยังได้อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า

หลังจากอิ่มเอมกับมื้อเที่ยงแสนอร่อย เราก็กล่าวอำลาต่อ Ulu Temburong National Park ที่กว้างใหญ่กว่า 550 ตารางกิโลเมตร และมีเรื่องราวมากมายให้เรียนรู้ อีกทั้งยังเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง แต่เรื่องราวสนุกๆ ที่บรูไน ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ติดตามได้ทางรายการโลก 360 องศา วันอาทิตย์ แปดโมงเช้า ช่องไทยรัฐทีวี 32 HD