posttoday

อยากหยุดเวลาที่ห่าซาง

28 เมษายน 2561

จังหวัดห่าซางคือจังหวัดที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศเวียดนาม คนเวียดนามทางใต้มักจะออกเสียงชื่อจังหวัดนี้ว่า “ห่ายาง”

จังหวัดห่าซางคือจังหวัดที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศเวียดนาม คนเวียดนามทางใต้มักจะออกเสียงชื่อจังหวัดนี้ว่า “ห่ายาง” ที่นี่รายล้อมด้วยขุนเขาและภูมิประเทศแปลกตา อีกทั้งยังมีหลากสีสันของชนเผ่า เย้ายวนให้พวกเราเดินทางมาค้นหาเสน่ห์บนเส้นทางที่ไม่ได้สะดวกสบาย แต่มากมายด้วยประสบการณ์ดีๆ ที่ยังคงประทับอยู่ในความทรงจำ อยากรู้แล้วสิว่าที่นี่มีอะไรดี ออกเดินทางไปกับพวกเราทีมงานโลก 360 องศาด้วยกัน

อยากหยุดเวลาที่ห่าซาง

ห่าซางเคยเป็นจังหวัดด้อยพัฒนาที่สุดของประเทศ เพราะเป็นเขตห่างไกลความเจริญและยากลำบากในการเดินทาง ดังนั้นที่ผ่านมาความศิวิไลซ์ของโลกยุคใหม่จึงไม่ได้เข้าไปมีส่วนเปลี่ยนแปลงผู้คนที่นี่ ภาพของวิถีเกษตรกรรมแบบพึ่งพาแรงงานสัตว์ ไปจนถึงภาพของเด็กสาววัยแรกรุ่นกำลังเลี้ยงลูกวัยแบเบาะ ยังคงธรรมเนียมปฏิบัติและวิถีชีวิตของผู้คนชนเผ่าในแถบนี้   แต่อีกไม่นานสิ่งเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงไป เพราะเศรษฐกิจที่เติบโตพุ่งทะยานของประเทศจีน ประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตร ซึ่งกำลังพัฒนาเส้นทางคมนาคมเพื่อเชื่อมเศรษฐกิจมายังจังหวัดนี้ นี่เองที่ทำให้ห่าซางเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ควรค่าในการเดินทางมาทำความรู้จักเสียก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงไปหลังจากนี้

เมืองห่าซางคือศูนย์กลางการบริหารและปกครอง เมืองนี้ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่สิบปี เพราะไม่ไกลจากที่นี่คือหนึ่งในด่านพรมแดนสำคัญประตูการค้าสู่มณฑลยูนนานประเทศจีน แต่สำหรับนักเดินทางผู้รักการผจญภัยแล้ว เมืองนี้คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางท่องเที่ยวไปยังดินแดนที่มีภูมิประเทศสวยงามแปลกตา และเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ควรค่าอย่างยิ่งที่จะมาเยือน โดยมีถนนหมายเลข 4 ซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่เมืองห่าซาง จะพาเราไปยังเส้นทางที่ค่อยๆแคบลง สูงชันและคดเคี้ยวมากขึ้น จนกระทั่งไต่ระดับความสูงไปจนถึงระดับ 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่ซึ่งว่ากันว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม

อยากหยุดเวลาที่ห่าซาง

เดินทางออกจากตัวจังหวัดห่าซางได้ไม่นาน รถยนต์ของเราก็ต้องเร่งเครื่องเต็มกำลังฝ่าเนินเขาและโค้งหักศอก จนกระทั่งมาหยุดตรงจุดชมวิวแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นช่องเขาเล็กๆ เพื่อให้ถนนตัดผ่าน จุดนี้มีชื่อว่า “Heaven Gate หรือประตูสวรรค์” เพราะผ่านพ้นช่องเขานี้ไป เบื้องหน้าคือทิวทัศน์ตระการตาของภูเขาหินปูนที่ดูงดงามราวภาพวาดพู่กันจีนโบราณ ถัดไปไม่ไกลจากที่นี่คือจุดชมวิวเมืองก่วนบ่ะ (Quan Ba) สามารถมองลงไปเห็นเมืองทั้งเมือง เรียงรายด้วยกระเบื้องมุงหลังคาสีแดงสลับกับสีเขียวและสีเหลืองของแปลงผักและนาข้าว ใกล้ๆ กันยังมองเห็นภูเขาหินปูนทรงกรวยคว่ำ รูปทรงสมมาตร 2 ลูกติดกัน มีชื่อเรียกว่านุยโด่ย (Nui Doi) หรือแปลได้ว่าภูเขาอกนางฟ้า

เมื่อขับรถผ่านพ้นเมืองก่วนบ่ะได้ไม่นาน บรรยากาศเขียวขจีของต้นไม้สองข้างทาง ก็ถูกแทนที่ด้วยภูมิประเทศที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่หินโผล่พ้นจากพื้นดิน ที่นี่คือส่วนหนึ่งของอุทยานทางธรณีวิทยาที่ราบสูงด่งวาน (Dong Van Karst Plateau Geopark) มีอายุเก่าแก่นับล้านปีและมีซากฟอสซิลแทรกอยู่ในหินจำนวนมาก ซึ่งบางช่วงที่ถนนตัดผ่านสองข้างทางมองไปทางไหนก็มีแต่หินจนแทบจะไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้เห็นเลย แต่เชื่อหรือไม่ว่าชนเผ่าม้งที่อาศัยอยู่ที่นี่เพียรพยายามในการเอาชนะข้อจำกัดทางธรรมชาติ ด้วยการลงแรงขุดไถจนพอจะมีที่ว่างให้เพาะปลูกได้อย่างน่าทึ่ง

อยากหยุดเวลาที่ห่าซาง

ท่ามกลางภูมิประเทศที่มีแต่หินใครจะเชื่อว่าจะเป็นที่ตั้งของเมืองด่งวานที่เพียบพร้อมด้วยโรงแรมที่พักชั้นดีและร้านอาหารมากมาย เมืองนี้ในอดีตเคยเป็นฐานบัญชาการของกองทัพฝรั่งเศสเพื่อปกป้องการรุกรานจากจีน แต่ปัจจุบันเมืองนี้กลายเป็นเขตปกครองพิเศษที่มีอนาคตสดใส เพราะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางขนส่งสินค้าไปสู่ประเทศจีน ซึ่งมีพรมแดนห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร และไม่ไกลจากพรมแดนยังเป็นที่ตั้งของจุดเหนือสุดของประเทศเวียดนาม และหอธงชาติหลุงกู๋ (Lung cu) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองด่งวาน

ถนนหมายเลข 4 ช่วงเส้นทางระหว่างเมืองด่งวานไปเหมี่ยวแวค (Meo Vac) คือช่วงที่ทั้งสวยงามที่สุดและอันตรายที่สุด เพราะถนนช่วงนี้เลาะเลียบหน้าผาของหุบเขามาปิเล็ง (Ma Pi Leng) ซึ่งมีความลึกและสูงชันที่สุดในเวียดนาม กว่าถนนสายนี้จะสร้างเสร็จก็ต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางที่ผ่านหุบเขาแห่งนี้ก่อสร้างยากลำบากที่สุด แต่เชื่อหรือไม่ผู้คนเรียกขานถนนช่วงนี้ว่า “ถนนแห่งความสุข” (Happiness Road) เพราะในอดีตการสัญจรที่นี่ลำบากเพราะภูมิประเทศสูงชันและต้องอ้อมไปใช้เส้นทางอื่น เมื่อทราบว่าจะมีการสร้างถนนที่นี่ ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันมาช่วยสร้างถนนช่วงนี้ ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบากและต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการก่อสร้าง แต่เมื่อถนนสายนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่ด่งวานและเหมี่ยวแวคก็สามารถไปมาหาสู่สะดวกสบายขึ้น และที่สำคัญที่นี่ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้ผู้คนมาชื่นชมความงดงามของหุบเขามาปิเล็งได้ง่ายขึ้น

อยากหยุดเวลาที่ห่าซาง

ประเทศเวียดนามใครยิ่งมาก็ยิ่งหลงรักประเทศนี้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตอนเหนือของประเทศ เป็นดินแดนที่มีทั้งภูมิประเทศสวยงามและมีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์หาชมได้ยากยิ่ง ซึ่งในปัจจุบันอาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่สำหรับนักเดินทางที่รักการผจญภัยจากทั่วโลกแล้ว ทางตอนเหนือของเวียดนามคือหมุดหมายสำคัญที่จะต้องมาเยือนให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว ช่วงเวลาที่เหมาะจะมาเที่ยวที่นี่คือเดือน ต.ค.ไปจนถึง ก.พ.ของทุกปี เป็นฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวข้าวบนนาขั้นบันได อากาศเย็นสบายๆ ส่วนช่วงฤดูใบไม้ผลิก็มีดอกไม้หลากสีสันและเทศกาลเฉลิมฉลองที่หลากหลาย และอย่าลืมติดตามชมภาพสวยๆ และเรื่องราวที่น่าสนใจของจังหวัดห่าซางได้ทางรายการโลก 360 องศา ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 วันอาทิตย์นี้ หลังเคารพธงชาติ