posttoday

นึกถึงอาหารไทยโบราณ นึกถึงช่อม่วง

14 มิถุนายน 2556

ได้ยินชื่อร้านอาหารไทยอย่าง “ช่อม่วง” คงพานให้นึกถึงขนมไทยโบราณ

โดย...ยู่ยู้ ภาพ พงษ์ไทย วัฒนาวณิชย์วุฒิ&<2288;

ได้ยินชื่อร้านอาหารไทยอย่าง “ช่อม่วง” คงพานให้นึกถึงขนมไทยโบราณ แต่เมื่อมีโอกาสได้ถามไถ่ถึงที่มาของชื่อร้านกับ วัลลีย์ โปรณานันท์ เจ้าของร้านอาหารช่อม่วง เลยถึงบางอ้อว่า จริงๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับขนมไทยแต่อย่างใด หากมาจากความชอบในสีม่วงล้วนๆ จึงอยากนำสีหม้ายในสายตาของใครหลายคนมาเป็นธีมในการตกแต่งร้าน

วัลลีย์ เล่าว่า ร้านอาหารช่อม่วงเกิดจากความรักในการทำอาหาร โดยเริ่มต้นมาจากตัวเองที่ชอบทำอาหาร บวกกับคุณน้าที่เคยเป็นแม่ครัวในร้านอาหารชื่อดัง เลยมาพัฒนาสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ของช่อม่วง

“จุดเด่นช่อม่วงคงหนีไม่พ้นพริกแกงที่โขลกเองทั้งหมด ไม่ซื้อแบบสำเร็จรูป เพราะถ้าใช้การปั่นพริก รากผักชี พริกไทยที่ปั่นจะขาดออกจากกันเลย แต่ถ้าโขลก เหมือนเราค่อยๆ บี้เนื้อพริก สังเกตได้เลย ช่อม่วงทุกสาขาต้องมีครกอยู่ในครัว ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ อย่างอาหารทะเลก็สั่งจากบางพระ ชลบุรี คัดคุณภาพอย่างดี”

ร้านอาหารช่อม่วง ถือเป็นร้านอาหารไทยที่ประยุกต์ความเป็นโมเดิร์นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แต่ก็ไม่ทิ้งรสชาติต้นตำรับแบบโบราณ ซึ่งล่าสุดขอคืนกำไรให้ลูกค้าด้วยสาขาน้องใหม่ที่ศรีนครินทร์ ซึ่งบรรยากาศต้องบอกว่าฉีกภาพความโมเดิร์นจากสาขาที่สยามเซ็นเตอร์อย่างสิ้นเชิง เพราะสาขาน้องใหม่นี้เป็นร้านเดี่ยวๆ ที่ออกแบบมาในสไตล์วินเทจ ให้ความรู้สึกเหมือนกลับบ้านมากินอาหารเย็นกับคนในครอบครัว มีให้เลือกนั่งทั้งโซนห้องแอร์และเอาต์ดอร์

“ร้านนี้ยังคงความเป็นวินเทจไว้ เพราะเป็นสไตล์ที่เราชอบ ของโบราณๆ ในร้านที่เอามาตั้งโชว์อย่าง โทรทัศน์ โทรศัพท์ พัดลม ก็เป็นของที่เก็บสะสมไว้ และด้วยความที่สาขานี้เปิดที่ตึกของเราเอง เราไม่ต้องเสียค่าเช่า เลยอยากคืนกำไรให้ลูกค้า เน้นอาหารคุณภาพดีเท่าเดิม แต่ราคาสบายกระเป๋าขึ้น แถมมีเมนูพิเศษแต่ละฤดู ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่เราหาได้”

ส่วนเมนูแนะนำ ต้องยกให้ ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ที่นำกระดูกอ่อนมาเคี่ยวกับตะไคร้จนเปื่อย ทำให้หอมตะไคร้มากๆ บวกกับกลิ่นหอมๆ ของหอมแดง ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด มาปิ้งไฟอ่อนๆ ให้หอมก่อนแล้วเอามาโขลกใส่ลงไปต้มอีก ยิ่งดับเบิลหอมกลมกล่อม เหนือคำบรรยาย เมนูต่อมา คือ หลนปูเค็ม ที่ใช้หัวกะทิมาเคี่ยวกับน้ำตาลปี๊บเติมพริกหยวกให้หอม กลายเป็นอีกหนึ่งจานอร่อย

แต่ถ้าชอบอาหารทะเลรสจัดจ้าน ต้องยกให้ ผัดเรือโป๊ะ ที่ขนกันมายกทะเล ทั้งกุ้งแชบ๊วย หมึกโป๊ะ ปลาอินทรี เอามาผัดกับเครื่องแกงรสจัดจ้าน ที่นำพริกแดงพริกเหลือง รากผักชี กระเทียม พริกไทย มาโขลกให้ละเอียดแล้วเอามาผัดให้หอม จานต่อมา คือ หมูคำหวาน ถ้าจะใช้ดับรสชาติจัดจ้านก็คงเข้าที เพราะจานนี้หน้าตาคล้ายหมูแดดเดียว แต่เนื้อหมูนุ่มอร่อย เจ้าของร้านกระซิบว่า นอกจากเครื่องหมักสูตรพิเศษของทางร้านแล้ว อีกเคล็ดลับ คือ เมื่อหมักหมูเสร็จแล้วให้นำไปแช่แข็ง 3 ชั่วโมง เพราะถ้านำไปตากแดดเนื้อหมูจะแข็ง

ปิดท้ายด้วยเมนู แกงเขียวหวานหมูย่าง ซึ่งนอกจากจะพิเศษด้วยหมูย่างแล้ว แกงเขียวหวานที่นี่ยังไม่เขียวสมชื่อ เพราะนำพริกแกงไปโขลกไม่ใช่ปั้น เลยให้สีที่ไม่เหมือนทั่วไป แต่รับรองเรื่องรสชาติไม่แพ้ใคร

ส่วนเมนูของหวาน ทางร้านไม่ได้ทำเอง เพราะแค่ลำพังอาหารก็พิถีพิถันทุกเมนู เลยไม่มีเวลาเหลือมาทำเอง แต่ทางร้านเลยตระเวนหาเจ้าดังมาเพื่อเสิร์ฟของหวานให้ลูกค้าแทน ไม่ว่าจะเป็นกล้วยบวชชี ลอดช่อง หรือลอยแก้ว รวมทั้งปั้นหวาน ที่รวมเอาทั้งฝอยทอง ลูกชุบ ทองหยอด มาครบเซต

แต่ที่แนะนำว่าอย่ามองข้าม คือ น้ำพันซ์ช่อม่วง เป็นสูตรเฉพาะที่ทางร้านคิดเอง เป็นน้ำผลไม้รวมที่เป็นการรวมตัวของสับปะรด ส้ม มะนาว โซดา และน้ำเชื่อม รสชาติกลมกล่อม สดชื่นอย่าบอกใคร

สนใจไปท้าพิสูจน์อาหารไทยแบบต้นตำรับได้ที่ร้านช่อม่วง สาขาศรีนครินทร์ ถ้ามาจากถนนบางนาตราด ให้ใช้ถนนศรีนครินทร์ขาเข้าบางกะปิ ตรงไปทางห้างพาราไดซ์ พาร์ค เลยไปประมาณ 500 เมตร จะเจอโลตัส ศรีนครินทร์ ให้สังเกตหมู่บ้านมัณฑนาและศูนย์รถยนต์ฮอนด้า ร้านจะอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านมัณฑนาติดกับโชว์รูมรถยนต์ฮอนด้า เปิดตั้งแต่ 11.00-22.00 น. โทร. 02-389-1512