posttoday

เลือกตั้ง66:พิธา เชื่อเพื่อไทยไม่ถอนตัวรอยร้าวสมานได้

26 พฤษภาคม 2566

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เชื่อใจเพื่อไทยไม่ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ปมแย่งเก้าอี้ประธานสภาฯปรับจูนกันได้ ตอบไม่ประเด็นนักวิชาการเสนอพรรคที่3 นั่งเก้าอี้หรือแบ่งวาระคนละ2ปี มองยังไม่ถึงจุดที่ต้องใช้การโหวต

          นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง ปัญหาเรื่องตำแหน่งประธานสภาที่ยังขัดแย้งกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย และกรณีที่มีนักวิชาการเสนอให้นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติเป็นประธานสภา หรือให้พรรคก้าวไกลและเพื่อไทยแบ่งกันคนละ 2 ปี นั้นมองว่า ทั้ง8 พรรคที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะต้องร่วมมือ ปรับจูนกัน ต้องมีการพูดคุยกัน ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้ ซึ่งทั้งตนและประชาชนก็ได้ยินแล้วว่าแต่ละพรรคมีความต้องการ มีเหตุผลอย่างไร มีความตั้งใจอย่างไร คิดว่าทางที่ดีที่สุดคือน่าจะกลับไปพูดคุยกันผ่านทีมเจรจาที่เคยตั้งไว้ และเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน พยายามเดินหน้าเรื่องนโยบายในช่วงเวลา 1-2 เดือนที่จะต้องทำนโยบายร่วมกัน และแถลงต่อรัฐสภา จึงคิดว่าตอนนี้น่าจะเหมาะสมที่จะกลับไปพูดคุยกัน  

          ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้นขึ้นอยู่กับทีมเจรจา แต่คิดว่าคงมีการพูดคุยกันอยู่ได้เรื่อยๆ เชื่อว่าจะคุยกันอย่างรอบคอบ เอาประชาชนเป็นที่ตั้งและหาทางออกร่วมกันได้ เพราะยังมีงานที่ท้าทาย ที่ประชาชนไว้วางใจเราอยู่แล้ว เรื่องที่พูดคุยนี้อาจจะเป็นเพียงจุดหนึ่งเท่านั้น ต้องพยายามทำงานให้ประชาชนมีความหวัง ต้องจับมือกันให้แน่น ขอให้ทีมเจรจาได้มีโอกาสทำงานไปก่อน
 

          นักข่าวถามย้ำว่า ตำแหน่งประธานสภา ยังต้องเป็นของพรรคก้าวไกล หรือไม่ นายพิธา ระบุว่า ต้องให้ทีมเจรจาเป็นคนพูดคุยและย้ำว่า ยังคงเชื่อใจพรรคเพื่อไทย เชื่อใจทุกท่าน เวลาทำงานร่วมกันต้องเริ่มต้นด้วยความเชื่อใจซึ่งกันและกัน และเชื่อว่ารอยร้าวระหว่างพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย สามารถสมานกันได้แน่นอน ตนคิดว่าเป็นเรื่องปกติของการทำงานที่อาจจะมีความเห็นไม่ตรงกัน และมีการพูดคุยกัน แต่ถ้าสามารถเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และสามารถพูดคุยกันอย่างมีเหตุมีผล คิดว่าทุกอย่างมีทางออก 

          ส่วนกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่าง ความขัดแย้งระหว่างนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย พรรคก้าวไกลจะเป็นทีมเจรจาพูดคุยให้ด้วยหรือไม่   นายพิธา ระบุว่า ก็คงจะต้องกลับไปใช้ทีมเจรจาในการพูดคุยฌดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง
   
          ส่วนที่จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมไปเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการรัฐบาลในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคมนี้นั้น มองว่า ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการวิพากษ์วิจารณ์ เป็นส่วนหนึ่งของระบบประชาธิปไตย แต่เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกันแล้วและตอนนี้มีคนฝากความหวังไว้เยอะก็ขอให้เป็นหนึ่งในกระบวนการ ซึ่งกระบวนการสำคัญคือการพูดคุย ปรับจูนกัน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อได้เหมือนที่ประชาชนไว้วางใจมีงานใหญ่รออยู่อีกเยอะ

          นักข่าวถามว่า มีทางออกเรื่องตำแหน่งประธานสภาไว้ในใจหรือไม่นั้น นายพิธาระบุว่า ตนคิดว่าทุกท่านมีทางออก คงไม่ใช่แค่ตนคนเดียว แต่ต้องให้เกียรติพรรคร่วมอีก 7 พรรคด้วย นี่เป็นการตั้งรัฐบาลครั้งที่ 30 ก็คงมีเรื่องอย่างนี้ทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าจะพูดคุยแสดงเหตุผลกันอย่างไร จะทำอย่างไรให้ประชาชนไม่เสียกำลังใจ ไม่เสียความหวัง ไม่เสียสมาธิกับเรื่องใหญ่ของประเทศ

          ส่วนเตรียมยื่นข้อเสนอให้กับพรรคร่วมเร็วๆนี้หรือไม่ นายพิธา ระบุว่า มีโอกาสที่จะพูดคุยกัน แต่ทุกฝ่ายก็มีโอกาสที่จะเอาข้อเสนอมาวางบนโต๊ะเจรจาและใช้เหตุผลพูดคุยกัน ก็น่าจะหาทางออกได้ 

          ส่วนจะต้องใช้วิธีการโหวตหรือหรือไม่ นายพิธามองว่า ตอนนี้คงไม่ต้องถึงจุดนั้น

          นักข่าวถามถึงกรณี กกต. รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้วการเดินหน้าของรัฐบาลใหม่นั้นจะเป็นอย่างไรต่อนั้น นายพิธา ระบุว่า ก็เหมือนเดิม คณะกันเจรจาต้องทำงานให้หนักขึ้น ในส่วนของตนพยายามเดินหน้าทำให้การถ่ายโอนอำนาจไร้รอยต่อมากที่สุด สัปดาห์นี้เน้นไปที่ภาคเศรษฐกิจ โดยช่วงเช้าวันนี้ก็ไปสภาอุตสาหกรรมใหม่ เกี่ยวกับนวัตกรรม ช่วงบ่ายก็มาพบกับกลุ่มสุราไทยและคราฟท์เบียร์  ส่วนช่วงเย็นก็จะไปสภาแรงงาน เพื่อให้ทำงานไร้รอยต่อเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลต่อก็จะได้ทำงานได้ทันที