เลือกตั้ง66:ประวิตรโบกธงพลังประชารัฐชวนคนไทยใช้สิทธิลงคะแนน
พล.อ.ประวิตร นำโบกธงพลังประชารัฐ ปล่อยขบวนรถหาเสียงรณรงค์เลือกตั้ง ขอคนไทยออกมาใช้สิทธิ์ สนธิรัตน์ย้ำพรรคพร้อมทำตามนโยบายเศรษฐกิจและสังคม
เมื่อวันที่ 13 พ.ค.66 เวลา 08.00 น. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)จัดกิจกรรมปล่อยตัวคาราวานรถหาเสียงโค้งสุดท้ายทั่ว กทม.นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐโบกธงพรรคพปชร. เพื่อปล่อยคาราวานรถหาเสียงไปในเส้นทางต่างๆ โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมกทม. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการฝ่ายจัดทำนโยบาย ขึ้นขบวนรถแห่ เพื่อให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศพร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าคูหาเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม นี้
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้พรรคหาเสียงอย่างเข้มข้นและจะยุติการหาเสียงในเวลา 18.00 น. ขอให้ผู้สมัครทุกคนทำงานให้เต็มที่ เพื่อประเทศชาติและประชาชนของเราและความแข็งแกร่งของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะนำนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป
สำหรับเป้าหมายของพรรค ยังไม่มีการวางแผนใดๆ ขอให้รอดูวันที่ 14 พฤษภาคม เพราะเราต้องให้เกียรติประชาชน ประชาชนจะเลือกใครก็แล้วแต่และไม่ได้มีการคาดการณ์จำนวนที่นั่ง ที่จะได้
พล.อ.ประวิตร ได้เชิญชวนประชาชนมาใช้สิทธิ์ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ขอให้มาทุกคน เพราะบ้านเมืองเราต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนออกมาเลือกตั้ง เพื่อที่จะเห็นว่าเรามีสิทธิ์มีเสียงในการลงคะแนนเลือกตั้งทุกคน ขอฝากไว้ด้วย
สำหรับขบวนคาราวาน เริ่มปล่อยขบวนตั้งแต่หน้าพรรค ผ่านห้าแยกลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านแยกยมราช เข้าถนนหลานหลวง ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานพุทธ และจบที่ วงเวียนใหญ่ วนไปจนใกล้เวลาสิ้นสุดการหาเสียง
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่านโยบายหลักๆที่ชูในวันนี้คือการลดค่าใช้จ่าย และนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งที่เป็นหัวใจของพรรคพลังประชารัฐ และยืนยันพรรคพลังประชารัฐพร้อมทั้งนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายสังคม
นายสกลธี กล่าวว่าทุกเขตจะแห่ในเขตของตนเอง หลังจากตรงนี้ขบวนรถจะแยกย้ายไปยังเขตของตนเอง และกรรมการบริหารพรรคทุกคนก็จะกระจายตัวไปยังเขตต่างๆ เพื่อไปช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียง
สำหรับผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคพลังประชารัฐ ถ้าวัดกันที่ตัวไม่ได้เป็นรองใคร แต่ในสนามกรุงเทพฯมีกระแสเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งในส่วนของพรรคและผู้สมัครทุกคนทำทุกอย่างเต็มที่หมดแล้ว และเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนแล้วที่จะเข้าคูหากาเบอร์ 37
การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญผลหลังเลือกตั้งอยู่ที่ว่าเลือกอะไรได้อะไร ซึ่งถ้าเลือกพลังประชารัฐเราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง นำประเทศให้มันไปได้หลังการเลือกตั้ง ซึ่งตนอยากให้ทุกคนคิดถึงผลด้วยว่าหลังเลือกแล้วเราจะได้อะไร