posttoday

เลือกตั้ง66:กรณ์ มั่นใจ ชาติพัฒนากล้า ปักธงภาคใต้อย่างน้อย5เขต

11 พฤษภาคม 2566

กรณ์ ลงพื้นที่ภูเก็ต ช่วยผู้สมัครส.ส. ชาติพัฒนากล้า หาเสียง มั่นใจ เทมส์-อรทัย เข้าวิน ชี้กระแสดี เชื่อ พรรคปักธงภาคใต้อย่างน้อย 5 คน พา ภาคใต้ เปลี่ยนแปลง กลับสู่ยุครุ่งเรือง เทมส์ ปลุกคนภูเก็ต อย่าเลือกด้วยความกลัว ให้เลือกด้วยความหวัง อาสา แก้ปัญหาให้ประชาชน

วันที่11พ.ค. นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต ช่วย 2 ผู้สมัครของพรรคหาเสียง คือ นายเทมส์ ไกรทัศน์ เขต 2 เบอร์ 7 และ นางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ เขต 3 เบอร์ 1 ขอเสียงประชาชนในช่วงท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง นายกรณ์ได้ขึ้นรถแห่พร้อมด้วยนายเทมส์ ไปยัง ต.ฉลอง ต.ราไวย์ อ.เมือง เพื่อขอเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา ตลอดจนผู้ประกอบการร้านค้าสองข้างทาง และหมู่บ้านต่างๆ โดยมีเสียงตอบรับ และให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งชูมือสัญลักษณ์เลข 7 ตลอดเส้นทาง 

นายกรณ์ให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจว่า ผู้สมัครทั้ง 2 คนที่พรรคชาติพัฒนากล้า ส่งลงจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน ประชาชนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ภูเก็ตจะมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามามาก ไม่ได้มองแค่ตัวเลขนักท่องเที่ยวหรือ หรือ ตัวเลขจีดีพีที่เพิ่มขึ้น แต่เราต้องไปดูในระดับประชาชนว่า ได้รับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างไร ภูเก็ตควรมีโอกาสบริหารตัวเอง การจัดสรรงบประมาณต้องเป็นธรรม

ภูเก็ตจะเป็นเมืองระดับโลกที่แท้จริงได้ สาธารณูปโภคต้องอยู่ในระดับมาตรฐานของโลกด้วย ส.ส.ที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของชาวภูเก็ต นอกจากจะพึ่งพาได้แล้ว ยังต้องเป็นคนที่คนภูเก็ตภาคภูมิใจว่า เป็นตัวแทนในระดับสากลได้ด้วย เรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น มีสาเหตุเหตุมาจากต้นทุนพลังงาน และค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เราต่อสู้มาโดยตลอด ในช่วง 2 ปี ที่ภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ต้องหยุดชะงักเพราะสถานการณ์โควิด หนี้สินภาคครัวเรือนที่นี่พุ่งสูงขึ้น เราจะเข้ามาช่วยคนตัวเล็กให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม 

นายกรณ์กล่าวว่า กระแสของพรรคชาติพัฒนากล้าในภาคใต้ดีวันดีคืน มาอยู่ที่ภาคใต้ตลอดสองสัปดาห์ ตระเวนช่วยผู้สมัคร ปราศรัยหาเสียง ตั้งแต่ ภูเก็ต สงขลา หาดใหญ่ พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ฯลฯ แม้จะไม่ได้ส่งผู้สมัครครบทุกเขต แต่คะแนนของผู้สมัคร อยู่ในระดับดี ประชาชนให้การยอมรับในท่าทีของเราที่ไม่ขัดแย้งกับใคร ยึดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก การลงพื้นที่ไม่เคยมีใครถามว่า จะอยู่ฝ่ายไหน มีแต่สะท้อนปัญหาความเดือดร้อนให้เราช่วยผลักดันแก้ไข จึงส่งผู้สมัครคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจเปลี่ยนแปลงการเมือง เพราะเชื่อว่า บ้านเมืองเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าการเมืองไม่เปลี่ยน เพราะปัจจุบันการผูกขาดมันมากขึ้นเรื่อ ๆ และครอบงำการเมืองระดับประเทศ พรรคเราเป็นพรรคเล็กที่ปราศจากทุนผูกขาดอุปถัมภ์ เราสู้แบบไม่ต้องเกรงใจใคร และผู้สมัครทุกคนก็มีอิสระทางความคิดของตนเอง 

“ภาคใต้เราส่งผู้สมัคร 19 คน มั่นใจเข้ามาได้อย่างน้อย 5 คน ถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงสำหรับพรรคขนาดเล็กของเรา หากเข้ามาได้ จะมีผลต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของภาคใต้ ที่จะกลับไปสู่จุดเดิม ผมเป็นคน กทม.เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์มาก่อน มีความชื่นชมการเมืองภาคใต้ตลอด รู้สึกว่าการเมืองภาคใต้ เป็นผู้นำทางความคิด และผู้นำในระดับประเทศ แต่ช่วงนี้มันหายไป เราไม่เห็นบุคคลที่โดดเด่นทางความคิดในทางปฏิบัติ เหมือนในอดีต เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เชื่อว่าชาวใต้เองก็โหยหา ในส่วนของคนรุ่นใหม่พรรคชาติพัฒนากล้า ครั้งแรกก็ไม่ได้มั่นใจนัก แต่พอเขาแสดงตน มีหลายคนที่จะสามารถนำพาการเมืองกลับไปสู่เหมือนเดิมได้ เพราะมีอุดมการณ์ที่ชัดเจนคือ ไม่ซื้อเสียง นำความคิด เน้นเรื่องลงมือทำ เน้นการแก้ปัญหา ทั้ง  เทมส์ อรทัย ที่ภูเก็ต จูรี ที่หาดใหญ่ สงขลา ทนายลิขิต ที่ชุมพร นายหัวสิทธิ ชะอวด นครศรีธรรมราช คนพวกนี้จะเข้าไปเป็นเชื้อการเมืองที่ดี แนวสร้างสรรค์ นำมาการเมืองภาคใต้ไปอยู่ยุครุ่งเรืองเหมือนในอดีตได้ ผมเชื่อแบบนั้น” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว  

นายเทมส์ กล่าวว่า การเลือก ส.ส.เขต คือเลือกตัวบุคคล โดยส่วนตัวไม่อยากให้การเมืองใหญ่มาเป็นปัจจัยในการลงคะแนน หยิบปากกาให้มั่น เลือกคนที่คุณมั่นใจจริง ๆ เราไม่ได้เลือกแล้วมีผลต่อการตั้งรัฐบาลทันที แต่สิ่งที่สำคัญคือ ชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชน อย่าเลือกด้วยความกลัวว่า ใครจะกลับมาหรือใครจะอยู่ต่ออีกกี่ปี แต่อยากให้เลือกด้วยความหวัง ว่าเศรษฐกิจหลังจากนี้จะดีขึ้น ปากท้องดีขึ้น เงินต้องมี สินค้าต้องไม่แพง เราต้องเลือกด้วยความหวังว่า คนไหนที่จะมาแก้ปัญหาให้เราได้ และ ส.ส.เขตคนไหนที่เราพึ่งได้ จริง ๆ ว่าเขาจะแก้ไขปัญหาให้เราได้ พูดแทนเราได้จริง การเมืองไทยจะดีขึ้น 14 พฤษภาคม 2566 เลือกเทมส์ ไกรทัศน์ เบอร์ 7 ไม่ผิดหวังแน่นอน

 

เลือกตั้ง66:กรณ์ มั่นใจ ชาติพัฒนากล้า ปักธงภาคใต้อย่างน้อย5เขต