posttoday

เลือกตั้ง66:มท.1ย้ำผู้ว่าฯ-นายอำเภอทั่วประเทศวางตัวเป็นกลางทางการเมือง

27 เมษายน 2566

รัฐมนตรีมหาดไทย มอบนโยบายผู้ว่าฯ-นายอำเภอทั่วประเทศ สนับสนันการเลือกตั้ง66 ย้ำวางตัวเป็นกลางทำตามอำนาจหน้าที่ ข้าราชการไม่มีใครสั่งได้

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ทั่วประเทศ ที่โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ จ.นนทบุรี กระทรวงมหาดไทย ในโครงการประชุมสัมมนาเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2566 ว่า การประสัมนาวันนี้ทุกคนทราบดีว่า เป็นวาระสำคัญยิ่งของประเทศ ทุกคนทราบดีว่ากระแสของการออกเสียงเลือกผู้บริหารประเทศนั้นในขณะนี้สังคมต้องการให้เกิดขึ้น ประชาชนจะเลือกใครอย่างไร ตนคิดว่าปัจจุบันสังคมมีการพิจารณามากขึ้น บางส่วนอาจจะเลือกเพราะเขตบางส่วนอาจจะเลือกของพรรค ผลจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของขั้นตอนการดำเนินงานต่อไป 

ทั้งนี้ ในการประชุม มี 2 ส่วน คือ ปฏิบัติตามหน้าที่ขอเจ้าหน้าที่รัฐและอีกส่วนคือหัวหน้าหน่วยเลือกตั้งหรือกรรมการประจำเขตใน400 เขต หรือ90,000 กว่าหน่วย เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ทุกคนเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ หรือดูแลกำกับท้องถิ่น ว่าไม่สามารถสั่งบังคับบัญชาได้ คำว่าสั่งได้เป็นการที่คนกลุ่มหนึ่งสื่อว่าสั่งได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ ตนไม่เคยเชื่อว่าจะมีใครสั่งใครได้ 

"ตามอำนาจหน้าที่ทำได้อย่างเดียวเท่านั้นคือต้องวางตัวเป็นกลาง และทำตามอำนาจหน้าที่ อย่าได้คิดที่จะไปทำ จะไปสั่งจะไปยุ่งจะไปข้องเกี่ยว ไม่ว่าจะรักชอบ นิยมชมชื่น ก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งตามอำนาจหน้าที่ทำได้แค่นั้น"พล.อ.อนุพงษ์กล่าว 

ทั้งนี้ ไม่ได้กังวลว่าใครจะโดนโทษหนัก แต่ที่ตนตระหนักว่าสิ่งที่ทำไปหรือสิ่งที่เกิดขึ้นจะเกิดความวุ่นวาย ในแผ่นดินนี้ ความสงบสุข ความสงบเรียบร้อยของประเทศชาตินั่นแหละคือเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นยังอยากให้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ปฏิบัติแสดงออกทั้งหมดทุกอย่าง ว่าเป็น กลาง ไม่เอียงเข้าข้างฝ่ายใด ไม่ให้ร้ายฝ่ายใด ไม่นิยมชมชอบใครเป็นพิเศษ 

ส่วนของคณะกรรมการประจำหน่วยเป็นอีกบทบาทหนึ่ง ที่ทุกคนต้องรับผิดชอบ ซึ่งคนที่จะให้แนวทางในการปฏิบัติคือกกต. ซึ่งทุกคนต้องฟังกกต. ภายใต้การแข่งขันทุกคนพยายามที่จะ ขึ้นไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง ถ้าทำแค่ปราศรัยหาเสียง ก็ไม่เป็นไรแต่มีการสาดโคลนใส่กัน มีเรื่องร้องเรียน หวังว่าเมื่อประธานกกต.ชี้แจงในวันนี้ ทุกเขตเลือกตั้งจะมีความชัดเจนในการปฏิบัติ 

พร้อมกล่าวถึงข้อกังวลเรื่องบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้ได้เช่นเดียวกับบัตรประชาชน ในการเข้าไปใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้ง เพราะเกรงว่าอาจเกิดความเข้าใจผิด และไม่อนุญาตให้ใช้บัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ในหน่วยเลือกตั้งบางหน่วย จึงอยากให้เข้าใจตรงกัน 

ส่วนเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย ตนเข้าใจว่าในหน่วยเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งส่วนนอกหน่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องดูแลความสงบเรียบร้อย

การเลือกตั้งครั้งนี้เราใช้งบประมาณหลายพันล้านบาท เป็นการบอกว่าใครชนะ มีอำนาจในการมาบริหารประเทศ ประเทศเจริญ มีความผาสุข ถ้าไปใช้สิทธิ์น้อยการใช้อำนาจรัฐก็เหมือนเป็นการไม่สามารถสะท้อนคะแนนที่แท้จริง จึงอยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันให้มากๆ จะได้สะท้อนคะแนนที่เป็นจริง

ดังนั้น ไม่ว่าส่วนใดต้องวางตัวเป็นกลางทั้งแสดงออก แสดงตัวสร้างความรับรู้ให้ประชาชนว่าเป็นกลาง ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะต้องจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสอบสนับสนุนกกต.ให้มีผลออกมา เพื่อจะได้มีการตั้งรัฐบาลมาบริหารงานต่อไป