เลือกตั้ง66: ธนาธร วอนเลือกก้าวไกลชีวิตคนไทยดีขึ้นมหาศาล
‘ธนาธร’ ช่วยผู้สมัครส.ส.นครศรีฯหาเสียง ขอคนเมืองนครร่วมเปลี่ยนอนาคตที่ดีกว่า ชี้คนใต้ต้องการการเมืองโปร่งใสไม่ทุจริต ยก ‘ก้าวไกล’ พร้อมลุยสร้างความเจริญ หากได้เป็นรัฐบาลจะพลิกชีวิตคนไทยดีขึ้นมหาศาล
เมื่อวันที่ 24เม.ย.2566 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เดินทางไปที่จ.นครศรีธรรมราช ช่วยหาเสียงผู้สมัครส.ส.ของพรรคก้าวไกลประกอบด้วย ปกรณ์ อารีกุล ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 (เบอร์ 3) พสุธน โมคคัลลา กลับนุ้ย ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 2 (เบอร์ 2) ชนิศา ชูเมือง ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 (เบอร์ 4) ปิยวัฒน์ สิริพันธ์พงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 6 (เบอร์ 8) พุฒิพงศ์ ลุ่ยจิ๋ว ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 7 (เบอร์ 5)
การปราศรัยวันนี้ ธนาธรได้กล่าวถึงเหตุผลที่พรรคก้าวไกลเสนอคำขวัญ ‘กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม’ ว่าเพราะเราต้องการตอบโจทย์ที่ประชาชนคนไทยจำนวนมากหมดหวังไปแล้ว ไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งจะทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนไปได้ แต่เราเชื่อว่าประเทศไทยดีกว่านี้ได้ ลูกหลานควรได้รับโอกาสเติบโตมาในสังคมที่ดีกว่านี้ และวิธีการทำงานของเราแตกต่างจากคนอื่น เพราะพรรคก้าวไกลไม่เคยคิดว่าจะแก้ปัญหาแบบขอไปที การทำแบบนั้นไม่สามารถพาประเทศไทยไปไกลกว่านี้ได้ แต่ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอเช่น เรื่องของ ส.ป.ก. วันนี้ไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เป็นเมืองในปัจจุบันแล้ว แต่ ส.ป.ก. ยังคงกักขังคนให้มีทางเลือกแค่ทางเดียวคือการทำการเกษตร ไม่ให้ทำห้องพัก ร้านกาแฟ และกิจการอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเกษตร และวิธีการแก้ปัญหาของพรรคก้าวไกล ซึ่งแตกต่างจากพรรคอื่น คือการทำให้ ส.ป.ก. เป็นโฉนด ทราบมาว่ามีร่างกฎหมายแล้ว พร้อมนำเสนอเข้าสู่สภาฯ ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ใน 30 วันแรกหลังเปิดสภาฯ พรรคก้าวไกลบอกว่ายื่นร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่สภาฯ แน่นอน
การแก้ปัญหายางพาราก็เช่นกัน ตั้งแต่อนาคตใหม่ถึงก้าวไกล ไม่เคยสัญญาว่าจะให้ราคายางเท่าไร แจกเงินแจกง่าย สร้างงานสร้างยาก แต่อยากให้ประเทศเติบโตอย่างยั่งยืนต้องสร้างงาน ในระยะสั้นต้องอัดฉีดเงินแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ระยะยาวต้องสร้างอุตสาหกรรมยางพาราในประเทศไทยให้ได้
วันนี้ มาเลเซียเลิกปลูกยางไปแล้ว ซื้อน้ำยางข้นผ่านด่านสะเดาบ้านเราเอาไปแปรรูปที่มาเลเซีย แปรรูปจนเกิดมูลค่าเพิ่มสูงกว่า ปล่อยให้คนไทยเป็นคนปลูกยาง ภูมิใจได้แค่ว่าเป็นผู้ส่งออกยางเยอะที่สุด แต่เครื่องจักรพื้นฐานที่สุดในการแปรรูปยางยังผลิตในประเทศไทยไม่ได้เลย
ธนาธรกล่าวต่อไป ว่าตนมองไม่ออกเลยว่าทำไมการแก้ปัญหาราคายางพาราแบบนี้ถึงจะทำไม่ได้ จะแก้ปัญหายางพาราต้องทำแบบนี้ สร้างอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการแปรรูปยางพารา เป็นรองเท้านักเรียน สนามเด็กเล่น อุปกรณ์การเรียนการสอน วัสดุกันกระแทกในอุตสาหกรรมการบิน ยานยนต์ ฯลฯ แปรรูปที่นี่ เกิดมูลค่าเพิ่มที่นี่ แล้วส่งออกไปขายต่างประเทศ นี่คือการแก้ปัญหาที่ต้นตอ และเป็นวิธีการทำงานแบบพรรคก้าวไกล
แต่ขณะเดียวกัน ก็มีคนปรามาสพรรคก้าวไกลมากมายว่าเป็นพวกสุดโต่ง เร็วเกินไป ไม่มีประสบการณ์ แต่สี่ปีที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลไม่ใช่หรือที่ทำผลงานในสภาได้โดดเด่นที่สุด ยกตัวอย่างเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว จากการอภิปรายเปิดโปงรัฐมนตรีคนหนึ่งว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน จนเกิดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นี่คือผลงานของ ส.ส. พรรคก้าวไกลที่เปิดโปงและปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนได้หลายพันล้านบาท
อยากย้ำอีกครั้ง ว่าสิ่งที่น่ากังวลไม่ใช่ประเทศไทยเดินเร็วเกินไปหรือไม่ แต่ประเทศไทยจะเดินช้าไปหรือเปล่า ไต้หวัน เกาหลีใต้ วิ่งหนีเราไปแล้ว อินโดนีเซีย เวียดนาม ไล่เรามาติดๆ และในอนาคตอาจจะมีลาว กัมพูชา ไล่ตามมาอีก ถ้าวันนี้ประเทศไทยยังคงเดินหน้าไปแบบนี้อยู่ สิ่งที่เราเสนอต่อสังคมไม่ใช่ความสุดโต่ง แต่เป็นความเจริญก้าวหน้า การทำให้เจริญแบบญี่ปุ่นเป็นเรื่องสุดโต่งอย่างนั้นหรือ ที่ควรถามคือคนที่ไม่อยากให้ประเทศเจริญก้าวหน้าแบบญี่ปุ่น เป็นพวกล้าหลังเกินไปหรือเปล่า
ถ้า 14 พฤษภาคมนี้ คนนครศรีธรรมราชทั้งจังหวัดเดินไปกาพรรคก้าวไกลทั้งสองใบ จะเสียอะไรอย่างนั้นหรือ หากพรรคก้าวไกลทำไม่ได้อย่างที่พูด อย่างมากก็เสมอตัว ประเทศไทยก็อยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าพรรคก้าวไกลทำได้ขึ้นมา ทั้งการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ยกเลิกเกณฑ์ทหาร สร้างรัฐสวัสดิการได้สำเร็จ ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปขนาดไหน ไม่อยากลองเดิมพันไปกับพรรคก้าวไกลสักตั้งหน่อยหรือ
“พรรคก้าวไกลขอแลกเสียงของทุกท่านด้วยการสร้างการเมืองที่ดี ที่ไม่ซื้อเสียง ไม่ทุจริต เอาอำนาจมารับใช้ประชาชน ไม่เกรงกลัวอิทธิพล และไม่ใช้อิทธิพลกับประชาชน หากนี่คือการเมืองที่ทุกคนปรารถนา พรรคก้าวไกลจะทำให้ดู ให้เห็นกันในชาตินี้ว่าการเมืองแบบนี้เป็นไปได้จริง ไม่ต้องรอชาติหน้า” ธนาธรกล่าว


