posttoday

เลือกตั้ง66: เศรษฐารับเป็นลูกทหาร เกลียดเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร

26 มีนาคม 2566

เพื่อไทย เปิดตัวผู้สมัครส.ส.รับเลือกตั้งทั้ง4เขตพื้นที่สระบุรี "เศรษฐา" ยอมรับเป็นลูกทหาร แต่เกลียดเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร "ณัฐวุฒิ" เชื่อ ประชาชนไม่ได้เกลียดทหาร แต่เกลียดที่ยึดอำนาจ

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทยเปิดปราศรัย ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่25 มี.ค.66 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สระบุรี ทั้ง 4 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นางสาวขาณิฐาณันท์ เทียมประเสริฐ เขต 2 นายอรรถพล วงษ์ประยูร เขต 3 นางสาวสิริพัชระ อิทธิพานิช เขต 4 นายบุญส่ง เกิดหลำ

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ ปราศรัยช่วงหนึ่งว่าเป็นลูกทหารบิดาเป็นทหารรุ่นเดียวกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่รังเกียจเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร ที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ถือเป็นเกียรติสูงสุดที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้ชวนมาร่วมทำงานแก้ไขปัญหาบ้านเมืองและมีอุดมการณ์เดียวกันคือ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งน.ส.แพทองธาร ว่าเป็นคนจริงใจ มีความตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมืองและกับพี่ชาย (พานทองแท้ ชินวัตร) สองคนนี้มีดีเอ็นเอตรงกันคือ “รักประชาชน”
 

นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2566 เป็นวันประวัติศาสตร์ มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ครบทั้ง 33 เขต ซึ่งกรุงเทพฯ มาจังหวัดสระบุรี ถือว่าไม่ไกลกัน ผลกระทบจึงถึงกันได้ พร้อมกล่าวถึงบรรยากาศปราศรัยที่เวทีกรุงเทพฯ ว่า ตนปราศรัยด้วยความดุดัน ดุเดือด เพราะมีอารมณ์ เพราะมีความคับแค้นใจมาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา หลายอย่างอาจเยียวยากันได้ แต่ด้านจิตใจคงเยียวยากันยาก พร้อมทั้งยกตัวอย่างเรื่องเพศสภาพว่าต้องมีความเท่าเทียม ,เรื่องการเกณฑ์ทหาร ก็ต้องมาจากความสมัครใจไม่ใช่การบังคับ ,เรื่องภูมิกาศ PM2.5 ที่ต้องเร่งแก้ไข ซึ่งพรรคเพื่อไทยเราทำได้ รวมถึงอีกหลายนโยบายที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจทำหากได้เป็นรัฐบาล “ขอให้ชาวสระบุรี เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์”

ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ประชาชนไม่ได้เกลียดทหาร แต่เกลียดที่มายึดอำนาจประชาชน อำนาจที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มาเป็นอำนาจที่มาจากการปล้นชิง เมื่ออดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุบสภาฯ แล้ว กลับไม่ได้เลือกตั้ง ออกมาเป่านกหวีด แม้ในวันนั้นพี่น้องจะเคยเห็นต่าง เพราะเชื่ออย่างนั้น อาจไม่เท่าทันว่า จะเกิดรัฐประหารในที่สุด ไม่เป็นไร มองไปข้างหน้า พรรคเพื่อไทยมาวันนี้เห็นความลำบากของประชาชน จึงอยากเดินไปข้างหน้า นำพาประเทศไทยออกจากเผด็จการ

“ถ้าเลือกเพื่อไทย ไม่มีทางได้ประยุทธ์ ไม่มีทางได้ประวิตร เพื่อไทยเกินครึ่ง เพื่อไทยเท่านั้นที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีรัฐธรรมนูญเผด็จการไม่เอาแล้ว หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต้องมีรัฐธรรมนูญจากประชาชน ผ่านการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จนทำให้ ส.ว. ที่พลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร ตั้งก็จะหายไป”