posttoday

เลือกตั้ง66:ประวิตร-พรรคภูมิใจไทย หารือชื่นมื่น จับตาขั้วใหม่ทางการเมือง

16 มีนาคม 2566

ภาพข่าว ร่วมโต๊ะกินข้าว ประวิตร-แกนนำภูมิใจไทย อย่างชื่นมื่น เป็นแค่วาระปกติ ไม่มีอะไรในกอไผ่ หรือ ก่อให้เกิด การรวมขั้วใหม่ทางการเมือง หรือไม่ ในวัน ภูมิใจไทย โดนจองกฐิน อย่างหนักจากหลายฝ่าย กลับมีอีก จิ๊กซอว์การเมืองให้ต้องเฝ้าติดตาม

ไม่รู้เป็นเหตุจาก ดาวมฤตยูย้ายหรือเปล่า จังหวะทางการเมือง พรรคภูมิใจไทย โดนมรสุมการเมือง ถาโถม พุ่งเป้า เล่นงานอย่างหนัก ในสภาผู้แทนราษฎร กฎหมายกัญชา ถูกขวางสกัดกั้น ค้างอยู่ในสภา ไปไม่ถึงฝั่งฝันอย่างที่ ภูมิใจไทย อยากให้เป็น

การเลือกตั้ง2566 ภูมิใจไทย ขอยกระดับ พรรคส.ส.ครึ่งร้อย ตั้งเป้า มีส.ส.ร้อยคน ทางการเมือง คือการแข่งขัน ใครดีใครได้ อีกด้าน เจอแรงเหวี่ยงมุมกลับ ทุกแต้ม ภูมิใจไทย ถ้าได้ส.ส.มา ย่อมหมายความว่า พรรคการเมือง พรรคพันธมิตรการเมืองในซีกรัฐบาลด้วยกัน หรือ ขั้วตรงข้าม อย่างฝ่ายค้าน จะต้องเสียพื้นที่ไป งานนี้ คงไม่มีใครยอมใครแน่นอน 

ที่ดิน เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ คดีค้างเก่าหลายสิบๆปี การใช้งบประมาณ การสร้าง ซ่อมแซม ถนน ถูกมอง กระจายไปยังพื้นที่ฐานเสียงทางทางการเมืองที่ใกล้ชิดกับ แกนนำพรรคภูมิใจไทย เท่านั้นหรือไม่ นักการเมืองในสภาฯ ขยายประเด็น นำไปอภิปราย ชำแหละให้เห็นถึงความผิดปกติ 

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ในชั้นศาลปกครอง ยังไม่ได้ข้อยุติ สังคม วิพากษ์วิจารณ์ จงใจล็อกสเปคเอื้อให้เอกชนบางรายหรือไม่ เม็ดเงินโครงการ มหาศาลนับหมื่นล้านบาท จะเกี่ยวพันไปถึงการเลือกตั้งกำลังจะเกิดขึ้นในกลางปี2566 หรือไม่ การประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่มีใครกล้าเสี่ยง ถอนวาระการพิจารณา ออกไปจากที่ประชุมครม. รอให้ รัฐบาลใหม่ มาพิจารณา

ประเด็นกัญชา นอกสภาฯ ระอุ ดุเดือด กัญชา หากนำไปใช้ทางการแพทย์ ช่วยเหลือผู้คน ไม่มีใครคัดค้าน พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ประเด็นน่าเป็นห่วง กัญชาเชิงสันทนาการ เยาวชน นักศึกษา นำใช้ในทางที่ผิด ปรากฏข่าวเชิงลบ ไม่เหมาะไม่ควร ให้เห็นรายวัน สร้างความหวั่นวิตก ผู้ปกครอง และสังคม เป็นอย่างยิ่ง    

‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ นักการเมืองชื่อดัง สวมบท นักสืบ เกาะติด เปิดโปง รุมถล่ม ภูมิใจไทยไม่เลิก ประเด็นรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ดินเขากระโดง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กัญชา ถึงขนาดจะขอ เป็นเงาตามตัวตามพรรค ตามประกบติด ภูมิใจไทย ไปที่ไหน ไล่หลังเจอ ชูวิทย์ ขอไปด้วย ไปให้ข้อมูลอีกชุด ภูมิใจไทย ไม่ยอมถูกกระทำฝ่ายเดียวกัน มอบให้ ส.ส.ทั่วประเทศ แจ้งความเอาผิด เป็นการเอาคืน

ภูมิใจไทย นาทีนี้ เหนื่อยนักกว่าใครเพื่อน ปัญหาต่างๆ ต้องตามแก้พัลวัน เจอจองกฐิน ภูมิใจไทย ไม่รู้จะไปจบเอาตอนไหน การเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม2566  เหลือเวลาอีกไม่นานนัก บรรดานักตรวจสอบในสภา นอกสภาฯ จ้อง ขุดปมปัญหาต่างๆมาถล่ม ดูแล้ว เรื่องคงยังไม่หมดง่ายๆเพียงเท่านี้  

ทางการเมือง พรรคถูกดูดหรือฉก ส.ส.ไป รอรับน้อง จัดหนักจัดเต็ม พรรคในพื้นที่แข่งขัน คงไม่ยอมให้ ภูมิใจไทย ได้ส.ส.ไปง่ายๆ  ชูวิทย์ ดูแล้ว คงไม่ราวียอมง่ายๆ ยิ่งใกล้เวลาเลือกตั้ง เข้าสู่โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง จะมีชุดข้อมูล เปิดแผลใหม่ อะไรอีกหรือไม่ 

พรรคภูมิใจไทย เผชิญมรสุมการเมืองรุมถล่ม หนักหนา ขุนพลแกนนำพรรค ยังพอมีเรื่องให้ยิ้มได้  ปรากฏภาพ 'พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ' รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กำลังพูดคุยอย่างออกรส ขณะรับประทานอาหารร่วมกัน ที่มูลนิธิบ้านป่ารอยต่อ ร่วมกับ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ รมว.สาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ‘ชาดา ไทยเศรษฐ’ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย และผู้กว้างขวางแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง 

ไม่ว่า ภาพนี้ จะเป็นความจงใจ พลั้งเผลอ จากฝ่ายเสนาธิการ หรือ จากพรรคการเมืองใด แต่ทำให้ก่อเกิด ปฏิกิริยาตามมาทางการเมือง ถูกมอง นำไปต่อจิ๊กซอว์การเมืองหลายแง่มุม 

รายงานข่าวจับปฏิกิริยา สะท้อนออกมา ‘รวมขั้วใหม่ทางการเมือง’ พลังประชารัฐ ผนึกกำลัง ภูมิใจไทย เรื่องราวทางการเมือง ไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร ในสภาฯ ปมประเด็น การโดดขวางกฎหมายกัญชา ของ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐบางส่วน ว่ากันไป มีหลายเรื่อง สมาชิกภูมิใจไทย ใช้กลไกลสภา เอาคืน พรรคพลังประชารัฐ เป็นการ สวนกันคนละหมัด เจ๊ากันไป เกมในสภา 

วงรับประทานอาหาร ตามภาพเป็นไปอย่างชื่นมื่น คล้อยหลังเพียงไม่กี่ชั่วโมง รถไฟฟ้าสายสีส้ม ถูกพล.อ.ประยุทธ์ ที่นั่งหัวโต๊ะประชุม ถอนออกจากครม. ท่ามกลางกระแสข่าวในวงหารือ กลุ่มรัฐมนตรี รุมค้าน มากกว่า รัฐมนตรี ที่สนับสนุน 

“ทานข้าวพูดคุยกันปกติ ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง ส่วนที่กินข้าวกับนายอนุทิน เมื่อกินข้าวด้วยกันก็เป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว ทำไมกินไม่ได้หรือ” บางช่วงบางตอน พล.อ.ประวิตร ตอบคำถามสื่อ 

หัวขบวน ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ แกนนำทั้ง2พรรค ชื่นมื่น ยิ่งทำให้ ชวนคิด พล.อ.ประวิตร สวมบท บิ๊กบราเธอร์ หรือ พี่ใหญ่ใจดี โดดเข้ามา โอบอุ้ม เห็นอกเห็นใจภูมิใจไทย ในตอนที่โดนการเมืองเล่นงานอย่างหนัก ประวิตร สวมบท มือประสานสิบทิศ-นักปรองดอง ส่งสารผ่านเพจเฟซบุ๊ค เป็นระยะๆ เน้นย้ำแนวทาง ‘ก้าวข้ามขัดแย้ง’ กลายเป็น สโลแกนประจำตัว และ พรรคพลังประชารัฐ 

บอกใบ้ เปิดทาง จับมือรวมขั้วได้ทุกฝ่าย ตามประสา พี่ใหญ่ใจดี ไม่มีขั้ว ไม่ขัดแย้งกับใคร 

'พรรคเพื่อไทย' ขยับเป้าหมายไปไกล 310เสียง 'ภูมิใจไทย' หวังลึกๆทะลุ100เสียงขยับจากพรรคขนาดกลางเป็นพรรคขนาดใหญ่ 'ประชาธิปัตย์' สู้เพื่อศักดิ์ศรี หากต่ำกว่า 52 ที่นั่ง ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ เลขาธิการพรรค ขอเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต 'พลังประชารัฐ' ได้มือทำงานกันมาครบ ตรึงกลุ่มฐานเสียงเหนียวแน่น ไม่ยอมเป็นพรรคต่ำสิบแน่นอน 'พรรครวมไทยสร้างชาติ' สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป้าหมายแรก ต้องมีส.ส.อย่างน้อย 25 เสียง มีสิทธิ์ เสนอชื่อนายกฯก่อน 

พรรคก้าวไกล ด้วยนโยบายเฉพาะ โดนใจนักศึกษา คนรุ่นใหม่ คงไม่อยากให้ได้จำนวนส.ส.น้อยกว่าครั้งที่แล้ว ยังไม่นับรวม พรรคไทยสร้างไทย ประชาชาติ เพื่อชาติ เสรีรวมไทย พรรคน้องใหม่อีกหลายพรรค ต่างมีของดีในตัว หวังอยากมีส.ส.ติดไม้ติดมือในสนามเลือกตั้งบ้าง   

แต่ละพรรค วางเดิมพันสูง ชิงชัยอำนาจ ผ่านการเลือกตั้ง2566 อยู่ในภาวะ 'เลือดเข้าตา แพ้ไม่ได้' หรือ ต่ำกว่าเป้าเดิมไม่ได้เด็ดขาด ในวันที่ คู่แข่งการเมืองเพิ่มมากขึ้น ในสนามการเมือง

ภูมิใจไทย กลายเป็นตำบลกระสุนตก อาการหนักกว่าใครเพื่อน โดนเจาะยาง อย่างต่อเนื่อง ต้องเร่งหา พันธมิตรการเมือง ท่ามกลางกระแสข่าว รวมขั้วใหม่จัดตั้งรัฐบาล เริ่มคิดสูตร คณิตศาสตร์การรวมเสียง สอดรับกับ จังหวะขยับ ประวิตร ออกมาได้จังหวะ วันที่เรื่องราวร้อนๆ ถาโถมเข้าใส่ ภูมิใจไทย แต่จะกอดคอ กลมเกลียว ชื่นมื่นกัน ไปจนเลือกตั้งจบลง จับมือเป็นพันธมิตรการเมือง ในนาม ขั้วใหม่ขั้วหรือไม่ ยังต้องติดตามประเมินสถานการณ์กันต่อไป สิ่งที่เห็น จะใช่อย่างที่เป็น หรือไม่