เฟดมีเฮ...?

หากถามใครต่อใครว่า “เฟดเอ็กซ์” โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ สมควรแก่เวลาที่จะตัดสินใจแขวนแร็กเกตได้หรือยัง

เชื่อว่าคงจะได้คำตอบทั้ง 2 อย่างเป็นแน่ เพราะฝ่ายที่อยากให้ประกาศรีไทร์ คงเป็นเพราะต้องการให้เฟดอำลาในขณะที่ยังยิ่งใหญ่ ส่วนอีกฝ่ายที่อยากให้เล่นต่อ ก็น่าจะเป็นเพราะเชื่อว่าเขายังยิ่งใหญ่ได้อีก

ต้องยอมรับว่าแฟนๆ ของอดีตมือ 1 โลกจากสวิตเซอร์แลนด์นั้น มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกจริงๆ ซึ่งดูได้จากไม่ว่าจะไปแข่งที่ไหน คอร์ตใดในโลกใบนี้ จะมีผู้คนตามไปเชียร์เพียบตลอด ไม่ใช่แค่ชาวสวิสด้วยกันเท่านั้น แต่มีแทบทุกชาติเลยก็ว่าได้ ที่เข้าไปชูป้ายให้กำลังใจเฟดถึงขอบสนาม

เฟเดอเรอร์ วัย 33 ปี เจ้าของสถิติแชมป์ชายเดี่ยว เทนนิสแกรนด์สแลมสูงสุด 17 สมัย (ออสเตรเลียน 4, เฟรนช์ โอเพ่น 1, วิมเบิลดัน 7, ยูเอส โอเพ่น 5) เริ่มเทิร์นโปรเมื่อปี 1998 ซึ่งเท่ากับหวดมา 16 ปีแล้ว แต่ยังเล่นได้ดีเหลือเกิน

เอาแค่ล่าสุดที่เจอกับ “โนเล” โนวัก โจโควิช (มือ 1 โลก/เซอร์เบีย) รอบตัดเชือก ศึกเซี่ยงไฮ้ มาสเตอร์ส ที่จีน เฟดก็สามารถผ่านมาได้ ก่อนจะไปเฉือนชนะ กิลส์ ซิมง (ฝรั่งเศส) ในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมกับชูถ้วยครั้งแรกในรายการนี้ และเป็นแชมป์ที่ 81 ในการหวดอาชีพ

 

อย่างไรก็ตาม ยอดนักหวดจากแดนนาฬิกาที่ไร้โทรฟี่ระดับแกรนด์สแลมติดมือมาถึง 2 ปีกว่าแล้ว นับแต่คว้าแชมป์ “วิมเบิลดัน 2012” แต่ท่วงท่าลีลาในการเล่นนั้น ยังดูสวยสง่างามเนียนตาซะเหลือเกิน

โดยเฉพาะการตีแบ็กแฮนด์มือเดียวที่งามหยดย้อยของเฟเดอเรอร์ และการเล่นสไตล์บุกตามที่ตัวเขาเองถนัด รวมทั้งการเล่นแบบ “เสิร์ฟ แอนด์ วอลเลย์” ที่ขึ้นหน้าเน็ตกระชากแต้มจากคู่แข่งได้เสมอๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความฟิต มิฉะนั้นคงไม่สามารถเคลื่อนที่ในคอร์ตได้ทันนักหวดรุ่นใหม่ๆ เป็นแน่ แต่สำหรับเฟดไม่ใช่ทางผ่านของมือใหม่รุ่นน้องหรือรุ่นหลานแน่

“ผมยังไม่เคยหมดไฟ และเชื่อมั่นด้วยว่าตัวเองยังมีดีพอที่จะสู้กับนักเทนนิสรุ่นน้องได้ และน่าจะคว้าแชมป์แกรนด์สแลมเพิ่มได้อีกด้วย” เฟเดอเรอร์ กล่าว หลังจากที่เคยโดนสบประมาทว่าอยู่ในช่วงขาลงก่อนหน้านี้

โดยเฉพาะฤดูกาล 2013 เขาคว้าแชมป์ได้แค่รายการเดียวที่เยอรมนี แถมผลงานในระดับแกรนด์สแลมก็แย่ ไม่สามารถเข้ารอบลึกๆ ได้เลย

แต่แล้วเฟเดอเรอร์ที่มีลูก 4 คน (แฝด 2 รอบ) กับ เมียร์กา ภรรยา กลับโชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกครั้งในปีนี้ หลังจากตกลงจ้าง สเตฟาน เอ็ดเบิร์ก (สวีเดน) อดีตนักหวดมือ 1 โลก ให้มาช่วยเป็นโค้ช ซึ่งแค่ออกสตาร์ทช่วงต้นฤดูกาล 2014 ก็หรูทีเดียว โดยเข้าถึงรอบตัดเชือกศึกแกรนด์สแลมแรกของปี “ออสเตรเลียน โอเพ่น” แล้วยังเข้าชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมคอร์ตหญ้า “วิมเบิลดัน” แต่พลาดท่าพ่ายโจโควิชหวุดหวิด โดยต้องดวลกันถึง 5 เซต ต่อด้วยมาร่วงรอบรองชนะเลิศแกรนด์สแลมสุดท้ายของปี “ยูเอส โอเพ่น” หลังแพ้ มาริน ซิลิช (โครเอเชีย) ก่อนที่นักหวดชาวโครแอตจะก้าวสู่แชมป์แกรนด์สแลมหนแรกในชีวิต

 

เรียกว่าภาพรวมในปีนี้ของเฟดถือว่ายังสุดยอด โดยกวาดแชมป์ไป 4 รายการ ซึ่ง 2 ทัวร์นาเมนต์หลัง (ที่ซินซินเนติ, เซี่ยงไฮ้) เป็นถึงระดับมาสเตอร์ส 1000 เลยทีเดียว

อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ สำหรับยอดนักหวดลูกสักหลาดจากเมืองบาเซิล เพราะหลังซิวแชมป์ล่าสุดที่แดนมังกร เขาก็แซง ราฟาเอล นาดาล (สเปน) ขึ้นเป็นมือ 2 โลกแทนแล้ว โดยเขี่ยราฟาลงไปรั้งมือ 3

ไฮไลต์ในปีนี้ สำหรับเฟเดอเรอร์ และแฟนคลับของเขา คงหนีไม่พ้นในศึกเทนนิสปิดซีซั่น “เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์” ณ โอทู อารีนา กรุงลอนดอน, อังกฤษ วันที่ 916 พ.ย.นี้ เพราะเฟดมีลุ้นที่จะขึ้นครองบัลลังก์โลกอีกครั้ง

ณ ตอนนี้ เขามีคะแนนสะสมโลก 9,080 แต้ม ตามหลังโนเลอยู่ 2,430 คะแนน ส่วนตาราง “เอมิเรตส์ เอทีพี เรซ ทู ลอนดอน” นั้น เฟดก็รั้งที่ 2 มี 8,020 แต้ม ตามโจโควิชแค่ 990 แต้มเท่านั้น

เฟดมี 3 รายการรออยู่ในปีนี้ โดยมี 3,000 คะแนนให้ไล่ล่า เริ่มจาก “สวิส อินดอร์ส” ที่บาเซิล (20-26 ต.ค.) 500 แต้ม “ปารีส มาสเตอร์ส” (27 ต.ค.-2 พ.ย.) 1,000 แต้ม ปิดท้ายด้วย “เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์” ที่ลอนดอน (1,500 แต้ม) นอกจากนี้ยังมีรอบชิงชนะเลิศ “เดวิส คัพ” (21-23 พ.ย.) ที่เขาพาทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์เข้าชิงกับทีมฝรั่งเศสที่แดนน้ำหอมอีกด้วย

ขณะที่โปรแกรมแข่งฤดูกาลนี้ของโจโควิช เหลือแค่ที่ปารีสและลอนดอนเท่านั้น แถมยังไม่แน่นอน และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย หาก เยเลนา ริสติช ภรรยาของมือ 1 โลก คลอดลูกในช่วงนี้ หนุ่มเซิร์บก็คงอยากไปอยู่ดูแลเมียรักพร้อมลูกคนแรกเป็นแน่

เฟเดอเรอร์ อาจได้ชื่อเกาหลีว่า “เฟด มี เฮ” หากสามารถทำให้แฟนๆ ของเขาได้เฮตอนจบซีซั่นนี้