posttoday

ย้อนสถิติปวดใจผีแดงของ"มอยส์"

22 เมษายน 2557

ย้อนสถิติผลงานการคุมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของ "เดวิด มอยส์" ก่อนจะมีประกาศปลดออกจากเก้าอี้กุนซือ

ย้อนสถิติผลงานการคุมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของ "เดวิด มอยส์" ก่อนจะมีประกาศปลดออกจากเก้าอี้กุนซือ

นับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ที่สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้ง เดวิด มอยส์ อดีตกุนซือ เอฟเวอร์ตันเข้าดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีม ด้วยการสนับสนุนจาก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตนายใหญ่ ผีแดง

ตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา "มอยส์" ได้สร้างสถิติหลายประการที่ทำให้กองทัพเรดอาร์มีทั่วโลกต้องอยู่ในอาการอึ้งกันทั่วหน้า และด้วยสถิติดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการประกาศปลดกุนซือชาวสกอตต์ออกจากถิ่น โอลด์แทรฟเฟิร์ด

ผลงาน เดวิด มอยส์ ในศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

17 ส.ค. 2556
"ปีศาจแดง" เปิดสนามด้วยการบุกชนะ สวอนซี ถึงเวลส์ 4-1 พร้อมทะยานเป็นจ่าฝูง ค่ำคืนวันนั้นเหล่า "เรด เดวิลส์" เริงร่าพร้อมซูฮก เดวิด มอยส์ คือคนที่ใช่

26 ส.ค. 2556
"แชมป์เก่า" แมนฯ ยูไนเต็ด เปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด เสมอกับเชลซีแบบไร้สกอร์ 0-0 แฟนบอลยังรับได้กับการแบ่งคะแนนกับกลุ่มท็อปโฟร์

1 ก.ย. 2556
ความเจ็บปวดครั้งแรกในซีซันบังเกิดขึ้นเกมที่ 3 เมื่อ "ปีศาจแดง" ยกพลไปพ่าย ลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์ในเกมแดงเดือด 0-1 โชคดีที่ครึ่งหลังพับสนามบุกใส่ "หงส์แดง" สาวกหลายคนจึงทำใจยอมรับได้

22 ก.ย. 2556
กระแสต่อต้าน มอยส์ เริ่มหนาหูขึ้น เนื่องจากทีมยังเมาหมัดโดนอริร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ซิตี เปิดเอติฮัด สเตเดียม ถล่มยับ 4-1 ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของการวิจารณ์รูปเกมรวมถึงกึ๋นในการเปลี่ยนตัวที่ต้องรอกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะคิดเปลี่ยนแปลง

28 ก.ย. 2556
สถิติไม่น่าจำเกิดขึ้นแล้ว !!! "ปีศาจแดง" เล่นฟอร์มดูไม่จืด เปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด พ่าย "เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช คาถิ่นครั้งแรกในรอบ 35 ปี 1-2 นี่คือผลงานออกสตาร์ทซีซันที่แย่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

ย้อนสถิติปวดใจผีแดงของ"มอยส์"

5 ต.ค. 2556
เป็นค่ำคืนถือกำเนิดของ อัดนาน ยานูไซ เจ้าหนูดาวรุ่งวัยเพียง 18 ปี ที่กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของสาวกปีศาจแดงคนใหม่ หลังซัดสองประตู ช่วยให้ทีมพลิกแซงซันเดอร์แลนด์ 2-1 เก็บเพิ่มสามแต้มพร้อมขยับขึ้นมาอยู่อันดับเลขตัวเดียว(อันดับ 9)

19 ต.ค. 2556
นอกจากจะถูกจวกยับถึงไอเดียในการจัดทัพแล้ว อดีตนายใหญ่เอฟเวอร์ตัน ยังพาแฟนบอลหัวเสียเป็น 2 เท่า เนื่องจากเอาแทคติกทีมเล็กมาใช้ สไตล์นำแล้วอุด สุดท้ายเอาไม่อยู่ เดยัน ลอฟเรน ไล่เจ๊าช่วงทดเวลาไปชนิดเจ็บปวด สุดๆ 

26 ต.ค. 2556
เสียงเรียกร้องปลดมอยส์ออกมาเพิ่มอีกระลอก ถึงขนาดลือหนาหูว่ากลับบ้านเก่าแน่ถ้าไม่ 3 แต้ม แต่สุดท้าย ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ (ชิชาริโต) รับบทฮีโร่เปลี่ยนตัวลงมาโหม่งประตูชัยให้แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกชนะ "ช่างปั้นหม้อ" สโตก 3-2 รักษาเก้าอี้ไว้ต่อไป

2 พ.ย. 2556
"ปีศาจแดง" เริ่มเดินเครื่องเก็บแต้มได้อีกครั้ง หลังยกพลบุกอัด "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม 3-1 เก็บสามคะแนนนอกบ้านเป็นนัดที่สองในฤดูกาล ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่ยังมีเสียงอื้ออึง ตำหนิรูปเกมมาบ้าง

10 พ.ย. 2556
เป็นเกมที่สาวก ยูไนเต็ด กลับมามั่นใจสุดๆอีกครั้ง เนื่องจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี ใช้กฎยิงประตูทีมเก่าดับซ่า อาร์เซนอล 1-0 ซึ่งในเวลานั้น "ปืนใหญ่" เก็บชัยรวดมา (ไม่นับแพ้วิลลา นัดเปิดสนาม) จนกลายเป็นจ่าฝูงอยู่ในเวลานั้น 

24 พ.ย. 2556
หนังม้วนเดิมถูกกลับมาฉายซ้ำ เมื่อเกมรับ "ยูไนเต็ด" เหม่อทดเจ็บอีกแล้วกระทั่ง "บลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี ตามตีเสมอ 2-2 ซึ่งหลังเกมมีองครักษ์พิทักษ์ มอยส์ ออกโรงป้องด้วยการหยิบยกว่า สถิติคุมทีม 11 นัดแรก ชนะ6 เนี่ย เหนือกว่าสมัยป๋า เฟอร์กี คุมด้วยซ้ำ แหม่ ... ช่าวคิดได้

1 ธ.ค. 2556
เวย์น รูนีย์ กลายเป็นนักเตะแบกทีมคนเดียวเสียแล้ว โชคดีที่เหมาสองประตูก่อนบุกมาแชร์แต้มกับ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส 2-2 โชคดีวันนั้น มอยส์ ไม่ถูกด่ามาก เพราะกระแสส่วนใหญ่ หนักไปทางจวก อังเดร วิลลาส โบอาส ซะมากกว่า

4 ธ.ค. 2553
ช่วงนั้นกระแสการเมืองไทยกำลังเดือด เช่นเดียวกับ "มวลมหาประชาผี" ที่ขับไล่ มอยส์ เช่นกัน เพราะสาวกส่วนใหญ่เริ่มรับไม่ได้แล้ว กับการแพ้ เอฟเวอร์ตัน คารัง 0-1

ย้อนสถิติปวดใจผีแดงของ"มอยส์"

7 ธ.ค. 2556
ฉายาโรงละครแห่งอาถรรพ์เสื่อมมนต์ขลังอีกแว้วว เพราะเกมถัดมานิวคาสเซิ่ลบุกมาฝังคาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-0 จากการทำประตูชัยของ โยอัน กาบาย ตอนนั้นแมนฯยูยังจมอันดับ 9 ตามเดิม

15 ธ.ค. 2556
วงจรอุบาทกลับมาอีกจนได้ หลังพี่น้องตระกูลเกลเซอร์กำลังประเมินผล มอยส์ก็พา ปีศาจ บุกถล่ม "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลลา เละ 3-0 ยืดอายุได้อีกจ้า

21-28 ธ.ค. 2556
เทศกาลบ็อกซิ่งเดย์เมื่อปีที่ผ่านมาแฟนผีเกือบได้ของขวัญสุดยิ่งใหญ่ เนื่องจากนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมใจกันกัน ถล่ม เวสต์แฮม 3-1 ต่อด้วยบุกเชือด ฮัลล์ ซิตี 3-2 แถมบุกชนะนอริช ซิตี ได้อีก 1-0 แต่ประวัติมาด่างวันปีใหม่ เพราะถูก สเปอร์ส บุกมาสอยคารัง 2-1

11 ม.ค. 2557
"ปีศาจแดง" คืนฟอร์มอีกครั้ง หลังเปิดบ้านคว้าชัยเหนือ "หงส์ขาว" สวอนซีด้วยสกอร์ 2-0 เท่ากับว่าเก็บ 3 แต้มได้ 4 จาก 5 เกม ในศึก พรีเมียร์ลีก เก้าอี้กุนซืออยู่รอดปลอดภัยต่อไป

19 ม.ค. 2557
เป็นบิ๊กแมตช์ที่ถูกวิจารณ์ยับ เนื่องจากขุนพล "เรด เดวิลส์" นัดกันเล่นไม่ออก ก่อนถูก ซามูเอล เอโต้ โชว์การจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยมจนพา"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านถล่ม 3-1 ท่ามกลางเสียงโห่ไล่

28 ม.ค. 2557
โรบิน ฟาน เพอร์ซี กลับช่วยทีมครั้งแรกในรอบ 11 เกม และไม่ทำให้แฟนๆต้องผิดหวัง เมื่อโขกประตูให้ทีมออกนำตั้งแต่ต้นเกม ก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านเอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี นิ่มๆ 2-0

1 ก.พ. 2557
เดือนแห่งความรัก เป็นอะไรที่แฟนปีศาจแดงไม่อยากจดจำ เพราะเพียงวันแรกของเดือนก็ถูก "ช่างปั้นหม้อ" สโตก เล่นงาน 2-1 โดยตัวแสบได้แก่ ชาร์ลี อดัม ฮีโร่ผู้ซัดสองประตูสุดสำคัญ

9 ก.พ. 2557
ยังเค้นฟอร์ไม่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะพลิกแซงนำ 2-1 ได้ แต่สุดท้าย ฟูแล่ม ก็ใช้ลูกขลุกขลิกตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ

12 ก.พ. 2557
หากไม่มี  ดาบิด เดเคอา ปีศาจแดงคงไม่รอดออกมาจาก เอมิเรตส์ สเตเดียมเป็นแน่ เพราะลูกยิงเน้นๆของ ซานติ กาซอร์ลา ถูกปัดออกไปอย่างหวุดหวิด จนลงเอย 0-0 

22 ก.พ. 2557 
บรรยากาศในทีมกลับมาคึกครื้นอีกครั้ง หลัง มอยส์ สามารถกล่อม เวย์น รูนีย์ ดาวยิงคนสำคัญให้ต่อสัญญาใหม่กับทีมได้ และกองหน้าร่างอวบ ก็จัดแจงซัดประตูช่วยให้ “ผีแดง” บุกคว้าชัยเหนือ "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ 2-0 พร้อมข่าวว่า สโมสรจะหนุนหลังทำทีมระยะยาว

8 มี.ค. 2557
ควันหลงทีมสปิริตยังคงคึกคักต่อเนื่อง เดวิด มอยส์ พาทีมบุกถอนแค้น "เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช ได้สะใจ 3-0 ทีมกลับมาอยู่โซนยุโรปได้อีกครั้ง (อันดับยูโรปา)

16 มี.ค. 2557
ป้าย “The Chosen One” อันมีความหมายว่า มอยส์ คือผู้ถูกเลือกโดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตตำนานกุนซือ ถูกแฟนบอลมากมายล้อมเพื่อปลดลง หลัง "ปีศาจแดง" ถูก "หงส์แดง" บุกมาย้ำแค้นคาบ้าน 3-0 ชนิดไร้ทางสู้

ย้อนสถิติปวดใจผีแดงของ"มอยส์"

22 มี.ค. 2557
อีกสักรอบน่า ! บ่อนพนันทุกแห่งเปิดราคา มอยส์ โดนเด้งออกมาแล้ว แต่ เวย์น รูนีย์ ยังรักเจ้านายซัดไกลครึ่งสนามช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คืนฟอร์มเก่งบุกไปเอาชนะ เวสต์แฮม 2-0

25 มี.ค. 2557
แฟนบอลชาวไทยแห่โพสต์เว็บไซต์ชื่อดัง "เลิกเชียร์ละ ถ้ายังไม่ปลดมอยส์ เปลืองไฟ!!!" ข้อความนี้เกิดหลังเกม ดาร์บี้แมตช์ ที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกมาเปิดคลีนิกสอนบอล 3-0

29 มี.ค. 2557
สามวันดี ... สี่วันไข้! แข้งผีกลับมาสะกดชัยได้อีกครั้ง หลังเปิดบ้านกำราบ แอสตัน วิลลา 4-1 โดยเกมนี้ ฆวน มานูเอล มาตา จิ๊กซอว์ที่มอยส์คาดหวังซัดประตูแรกในสีเสื้อ "ปีศาจแดง" จนได้

เข้าสู่เดือนมหาสงกรานต์สิ่งที่แฟนผีต้องการคือสาด มอยส์ ให้ไหลไปกับกระแสน้ำก็ประสบผล เพราะถึงแม้ทีมจะบุกถล่ม นิวคาสเซิล 4-0 (5 มี.ค. 2557) แต่ฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดสะบั้นเมื่อนายใหญ่หน้าเครียด ถูกทีมเก่าอย่าง เอฟเวอร์ตัน ย้ำแค้น 2-0 ยุติเส้นทางผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อย
 
สถิติน่าอายภายใต้กุนซือมอยส์

แมนฯ ยูไนเต็ด จะจบศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้โดยที่มีแต้มรวมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แน่นอน

นับตั้งแต่ปี 1995 นี่คือครั้งแรกที่ผีแดงชวดเตะฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

แมนฯ ยู ทำสถิติเล่นเกมลีกในบ้านย่ำแย่สุดในรอบ 1 ทศวรรษ

ผีแดงแพ้ครั้งแรกให้กับ สวอนซี ในประวัติศาสตร์สโมสร

แข้ง "ปิศาจแดง" แพ้ 3 นัดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2001

แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเองครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1972

แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ในบ้านตัวเอง ครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1978

แพ้เอฟเวอร์ตัน ไป-กลับ ครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1969-70

เป็นครั้งแรกที่ เอฟเวอร์ตัน และลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะ แมนฯ ยู ทั้งไปและกลับ ในฤดูกาลเดียวกัน