posttoday

ยอดจองห้องพักหัวหิน-ชะอำคึกใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกัน3

09 ตุลาคม 2564

ประจวบคีรีขันธ์-เผยยอดจองห้องพักหัวหิน-ประจวบฯ-ชะอำ คึกคักจากการใช้สิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 กระตุ้นใช้จ่ายช่วงโควิดระบาด

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2564 นายอุดม ศรีมหาโชตะ ประธานฝ่ายสิ่งแวดล้อมสมาคมโรงแรมไทย ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดจองห้องพักโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 ในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่อำเภอ ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี มีความคึกคักเป็นอย่างมาก คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเข้าพักตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม นี้ เป็นต้นไป และจะทยอยจองห้องพักต่อเนื่องไปถึงช่วงวันหยุดยาวปลายเดือนตุลาคม และ เดือนพฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาในการจองสิทธิของลูกค้าส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ระบบที่ ททท.มีความประสงค์จะป้องกันการทุจริตด้วยการวางหลักเกณฑ์ให้รัดกุม ผู้จองส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับการจ่ายค่าที่พักผ่านจี- วอลเล็ตในแอปเป๋าตัง ต่างจากระบบเดิมที่ใช้บัตรเครดิต แต่คาดว่าการท่องเที่ยวในรูปแบบไทยเที่ยวไทยจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากมีผู้สนใจจองสิทธิโรงแรมที่พักต่างๆเป็นจำนวนมาก

นายชวรัช มานะกิจสมบูรณ์ ผู้ประกอบการโรงแรมแอทที บูทึค คลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการตั้งแต่วันที่ ตุลาคมที่ผ่านมานั้น ทำให้ธุรกิจโรงแรมเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ปัจจุบันมียอดจองห้องพักเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ประกอบกับขณะนี้มีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 ซึ่งเริ่มเปิดให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์สามารถจองห้องพักได้ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา พบว่ามีผลการตอบรับที่ดีมาก มีนักท่องเที่ยวทยอยจองห้องพักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดมียอดจองแล้ว 150 คืน ส่วนใหญ่ต้องการเข้าพักในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดยาวปลายเดือนตุลาคมนี้ รวมทั้งมีการจองห้องพักเข้ามาในเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วย ระดับราคาห้องพักที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ 1,850 บาทซึ่งเป็นราคาเริ่มต้นของโรงแรม ลูกค้าจะจ่ายจริงเพียง 1,110 บาทสำหรับการเข้าพักในวันธรรมดา และ 1,350 บาทสำหรับการเข้าพักในช่วงวันหยุดยาว โดยภาครัฐช่วยสนับสนุนค่าห้องพักให้ร้อยละ 40 ต่อห้องต่อคืน ถือเป็นโครงการที่ดีในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีได้เป็นอย่างดีหลังจากผู้ประกอบการต่างได้รับผลกระทบในช่วงที่มีการบังคับใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เข้มงวด ทำให้อัตราการเข้าพักลดลงมากกว่าร้อยละ 90

ขณะที่จำเป็นต้องแบกรับภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อยากเชิญชวนให้ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจบริการต่างๆ ร่วมกันสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA ให้มากที่สุดและปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด จะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ