posttoday

ผู้การนราธิวาสขีดเส้น2สัปดาห์คลี่ปมคดีปืนอส.28กระบอกล่องหน

25 พฤษภาคม 2564

ผบก.นราธิวาสขอเวลาสอบสวนไม่เกิน 2 สัปดาห์จะมีความคืบหน้าคดีปืนอาก้าของอส.หายไป 28 กระบอก ย้ำเป็นคดีสำคัญของบ้านเมืองไม่มีการปกปิด

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยกรณีปืนอส.ปกครองหายไปจากกองร้อย อส.จังหวัดนราธิวาส ว่า มีฝ่ายปกครองเข้าไปแจ้งความเป็นเรื่องจริงที่มาที่ไปของคดีนี้เกิดจากเหตุการณ์คดีที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2564 กรณี นาวาเอกธงฉาน บุญระเทพ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจพราน นาวิกโยธิน , พ.ต.อ.ดุลมาน แยนา ผกก.สภ.บาเจาะ ได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ศูนย์ซักถามและรวบรวมข่าวสาร ฉก.นย.ภต. จำนวน 4 ชุดปฏิบัติการ บังคับใช้กฎหมายในการบุกจู่โจมตรวจค้นเป้าหมาย 7 จุด ในพื้นที่ อ.บาเจาะ เพื่อกดดันสมาชิกกองกำลังติดอาวุธในช่วง 10 วันสุดท้ายในช่วงเดือนรอมฎอน หรือถือศีลอด ในการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่ง 1 ใน 7 เป้าหมาย เป็นบ้านปูน 2 ชั้นในหมู่ 9 ต.บาเจาะ ที่เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันโอบล้อม ก่อนที่จะแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่คนร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่จนทั้ง 2 ฝ่ายได้ยิงปะทะกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่โดยรอบของบ้านหลังดังกล่าว พบศพนายซูไรดิน กะแต หรือมะดง อายุ 30 ปี อยู่หมู่ 5 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ถูกวิสามัญเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณด้านในของประตูหลังบ้าน โดยมีอาวุธปืนสงคราม AK102 จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่ที่ข้างศพ และมีอาวุธปืนพกขนาด 11 มม. ตกอยู่ห่างจากศพ ประมาณ 5 เมตร 1 กระบอก และมีปลอกกระสุนปืนของคนร้าย ตกกระจายเกลื่อนทั่งบริเวณ จำนวนกว่า 100 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบและเก็บรวบรวมหลักฐาน

ผู้การนราธิวาสขีดเส้น2สัปดาห์คลี่ปมคดีปืนอส.28กระบอกล่องหน

จากการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐาน จึงพบว่าปืนที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุเป็นปืนที่หายไปจากคลังปืนกองร้อย อส.จังหวัดนราธิวาส จึงประสานฝ่ายปกครองและส่วนรับผิดชอบ ฝ่ายปกครองได้มีการตรวจสอบในเวลาต่อมา ว่ามีปืนในคลังปืนหายไป 28 กระบอก ทั้งหมดมีหมายเลขทะเบียนคุมอาวุธปืนดังกล่าว

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ค.นายมะยูโซ๊ะ กูเดะ ปลัดอำเภอเมืองนราธิวาส ได้รับมอบอำนาจจากนายยะห์ยา ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ให้แจ้งความดำเนินคดีกับคนร้าย จากกรณีได้ตรวจสอบกองคลังกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเมืองนราธิวาสที่ 2 พบว่า อาวุธปืน AK-102 จำนวน 28 กระบอกได้สูญหายไป และคดีนี้ ร.ต.อ. วรกิต กี่ตระกูล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นราธิวาส ได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว เพื่อดำเนินการสอบสวน

“เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้มีการสืบสวนทางลับ ไม่ได้มีการพยายามปิดข่าวแต่อย่างใด และได้มีการสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ กองสืบสวน ตรวจสอบปืน อส.ร่วมกับฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ 13 อำเภอ ที่มีการร้องมาว่ามีปืนหาย การสอบสวนพบว่าปืนที่หายในอำเภออื่น ไม่เกี่ยวข้องกับปืนหาย แต่เป็นคดีเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบ ต้องแยกประเด็นให้ชัด กรณีปืนหาย 28 กระบอก หายแบบไหนอย่างไร ซึ่งหลังจากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะได้ประสานฝ่ายปกครอง เพื่อนำสอบผู้ต้องสงสัย ผู้ที่เข้าเวรยาม เจ้าหน้าที่ธุรการ เบิกจ่ายอาวุธปืนราชการ และบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้อง จะนำมาสอบปากคำ เพื่อเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย และใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะทราบถึงความคืบหน้า ไม่มีการปกปิด เพราะนี้เป็นคดีสำคัญของบ้านเมือง” ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าว

ส่วนกรณีมีปืนหายไปและตกไปอยู่ในกลุ่มก่อความไม่สงบ และหายไปอีกรวม 27 กระบอก ได้กลับมา 1 กระบอก พล.ต.ต.นรินทร์ กล่าวว่า มีความห่วงใยในเรื่องนี้ เพราะถ้าตกอยู่ในมือของคนร้าย หรือโจรก่อการร้าย คนร้ายก็จะใช้ปืนในการก่อเหตุความไม่สงบ กระทบประชาชนพื้นที่อย่างแน่นอน แต่อย่ามองว่าปืนจะอยู่ในมือโจรทั้งหมด ต้องรอผลการสอบสวนถึงรายละเอียดที่ชัดเจน ตามพยานหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความกระจ่าง และเข้าสู่กระบวนการตามลำดับกฎหมายต่อไปอย่างแน่นอน