2โรงแรมดังพัทยางัดแผนสู้โควิด ตั้งกระทะทอดปาท่องโก๋ขาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากเมื่อวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หวนกลับมาครั้งในระลอกที่ 2 ช่วงรอยต่อส่งท้ายปี 2563 เข้าสู่ปี 2564 ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ต้องโดนมรสุมอย่างหนักจนปัจจุบันมียอดการจองเดินทางท่องเที่ยวเกือบเป็นศูนย์ และมีการปิดตัวเนื่อง จากแบกรับภาระไม่ไหวไปแล้วกว่า 60-70% ปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการหลายรายจำเป็นต้องหากลยุทธ์ในการสร้างรายได้ที่ขาดหายไป เพื่อประคับประคองช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดไปได้ หารายได้ให้กับพนักงาน ช่วยลดต้นทุนซึ่งแม้จะเพียงเล็กน้อยแต่ก็ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน ที่ต้องรับมือกับความไม่แน่นอนของพิษเศรษฐกิจในปัจจุบัน ด้วยยังไม่มีความชัดเจนว่าสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 จะยุติเมื่อไหร่

น.ส.ขวัญ กองพฤกษชาติ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด โรงแรมดุสิตธานีพัทยา เปิดเผยว่าหลังจากเกิดสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ทางโรงแรมต้องมีการปรับตัวในการดูแลพนักงาน และโรง แรมให้ดียิ่งขึ้น กอปรกับลูกค้าหลายรายไม่สามารถเดินทางมาพักตามที่จับจองไว้ได้ ส่งผลให้มีพนักงานหลายส่วนที่ไม่สามารถปฏิบัติงานในส่วนของตัวเองได้เช่นกัน ทำให้ทางโรงแรมขาดรายได้ในการนำมาใช้จ่าย และ จากแนวคิดเดิมที่ให้ลูกค้าทางเข้าสู่โรงแรมเองก็มีความคิดใหม่ในการที่ทางโรงแรมจะออกมาหาลูกค้า จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Pop-up Store ด้วยการเปิดจำหน่ายปาท่องโก๋ ชา กาแฟ ในสไตล์ของดุสิตธานี ในราคาจับต้องได้ทั้งนี้หลังจากเปิดจำหน่ายมาได้ 2-3 วันปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด มีทั้งการสั่งจองล่วงหน้า และลูกค้าสามารถที่เดินทางมาอุดหนุนด้วยตัวเองที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนทางหนึ่งในการหารายได้ในการจุนเจือสิ่งที่กำลังกระทบอยู่ในปัจจุบัน แม้จะไม่มากจนเพียงพอก็ตาม

ขณะที่ นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ผู้บริหารโรงแรมในเครือซันไชน์ กรุ๊ป เปิดเผยว่าสำหรับแนวคิดที่จะขายปาท่องโก๋นั้น จริงๆแล้วแต่เดิมทั้งปาท่องโก๋ โจ๊ก และอาหารเช้าของทางโรงแรมราวินทรา ซึ่งเป็น 1 ของโรงแรมในเครือ ก่อนหน้านี้มีลูกค้าประจำที่ติดใจในรสชาติและถามไถ่กันมาเป็นจำนวนมากมาก ตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกแรก จึงได้ให้ทางเชฟคิดสูตรการทำปาท่องโก๋ที่มีความกรอบนุ่มและแตกต่าง ซึ่งช่วงแรกจะมีการรับออร์เดอร์ทางเฟสบุ๊คและแพ็คส่งทางไปรษณีย์ให้กับลูกค้าซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 2,000-3,000 ตัว ก่อนจะขยับมาถึงกว่า 10,000 ตัวในแต่ละวัน กระทั่งต่อมาก็มีแนวคิดที่จะใช้พื้นที่ว่างด้านหน้าโรงแรมที่ซึ่งแต่เดิมมีผู้ประกอบการมาเช่าไว้แล้วขอยกเลิกสัญญาเนื่องจากแบกรับภาระค่าเช่าไม่ไหวเพราะปัญหาโควิด-19 เช่นกัน จึงได้ทดลองใช้พื้นที่ว่างนี้มาเปิดหน้าร้านเพื่อจำหน่ายอาหารเช้า ปาท่องโก๋ โจ๊ก ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว ชา กาแฟ ตามสูตรเสริมขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้พนักงานมีงานทำ และมีรายได้จากเปอร์เซ็นต์การขายในช่วงที่เกิดปัญหาขณะนี้ โดยไม่ได้คิดว่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะปาท่องโก๋ จนต้องเปิดจำหน่าย 2 แบบ คือ แบบเดลิเวอรี่ในสัดส่วน 70% และแบบพร้อมรับประทานให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านจากหน้าร้านในสัดส่วน 30% รวมแล้วก็ประมาณวันละ 12,000-13,000 ตัว

นายธเนศ กล่าวต่ออีกว่าการลงทุนทำธุรกิจประเภทนี้ไม่ได้มองในแง่ของผลกำไร ขาดทุน แต่มองว่าทำอย่างไรให้พนักงานมีงานทำ มีรายได้ ที่พอประทังชีวิต โดยแบ่งเงินเปอร์เซ็นต์ของยอดการขาย ซึ่งภาพรวมแล้วคงไม่พอในการแบกรับภาระของโรงแรมได้ แต่ก็คงต้องยื้อกันไปก่อนเพราะทุกคนต้องกินต้องใช้ และประคองตัวให้รอดเพื่อรอวันที่สถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้น