posttoday

ลพบุรีพบติดเชื้อโควิดเพิ่ม5รายอยู่หมู่บ้านเดียวกันพันบ่อนไก่ชน

10 มกราคม 2564

ลพบุรี-รองผู้ว่าฯลพบุรีแถลงพบติดเชื้อโควิดอีก 5 รายมีเด็กวัย 10 ขวบรวมอยู่ด้วยทั้งหมดติดเชื้อจากผู้ป่วยรายที่ 7 เกี่ยวพันกับสนาไก่ชนจ.อ่างทอง

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. นายสุภกิณห์ แวงชิน รอง ผวจ.ลพบุรี พร้อมด้วย นพ.วรวิทย์ สัมฤทธิ์ดี หัวหน้ากลุ่มภารกิจสื่อสารความเสี่ยง ศูนย์ปฏฺิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ลพบุรี ร่วมกันแถลงผลการตรวจพบผู้ป่วย โควิด-19 ของ จ.ลพบุรีพบ เพิ่มขึ้นอีก 5 ราย รวมเป็น 20 ราย เป็นชายอายุ  63 ปี และหญิง 3 ราย อายุ 34 ,56 และ 67 ปีตามลำดับ ส่วนอีกรายเป็นเด็กชายวัย 10 ปี โดยทั้ง 5 ราย พักอาศัยในหมู่ 3 ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ติดเชื้อจากผู้ป่วยรายที่ 7 ที่ทำงานโรงงานที่ อ.ไชโย จ.อ่างทอง แต่ไปติดเชื้อในสนามชนไก่ลำท่าแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง และส่งผลมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นใน ต.บ้านเบิกถึง 13 ราย ทั้งหมดเข้ารับการรักษาตัวที่ ร.พ.ท่าวุ้ง

อย่าไรก็ตาม ทั้ง 5 รายทีมควบคุมโรค อ.ท่าวุ้ง ได้กักตัวตั้งแต่ทราบว่า เป็นผู้มีความเสี่ยงสูงจากการใกล้ชิดผู้ป่วยรายที่ 7 ขณะนี้ยังไม่มีอาการป่วย และยังเร่งค้นหาเชิงรุกในหมู่บ้านและตำบลดังกล่าวอีก เพื่อให้จำกัดวงและควบคุมโรคให้ได้ โดยสถานการณ์ของ จ.ลพบุรี ขณะนี้จากผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ 197 ราย พบการติดเชื้อ 20 ราย  และหากผลตรวจออกมาครบทั้งหมดในวันที่ 18 ม.ค. และไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก ถือว่าควบคุมอยู่ เพราะกรณีพบผู้ป่วยที่ อ.โคกสำโรง ขณะนี้มีการควบคุมได้ดี  ส่วนผู้ป่วยรายแรกในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่ติดเชื้อจากจ.สมุทรสาคร ได้ออกจาก รพ.ไปแล้ว แต่ยังคงให้คอยสังเกตอาการที่บ้านพัก 

ลพบุรีพบติดเชื้อโควิดเพิ่ม5รายอยู่หมู่บ้านเดียวกันพันบ่อนไก่ชน

นายสุภกิณห์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่ ต.บ้านเบิก ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งมาจากการสังสรรค์ในงานเลี้ยง ทำบุญกลางบ้าน  ใช้ภาชนะร่วมกัน  จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมทางจังหวัดถึงต้องประกาศไม่ให้ประชาชนมารวมตัวทำกิจกรรมกันจำนวนมาก เพราะส่งผลต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้อย่างรวดเร็ว  ทั้งนี้แม้ว่า จ.ลพบุรี มีจุดตรวจสกัดกั้นการแพร่เชื้อโควิด-19 หลักอยู่ 2 จุด มีจุดตรวจรอง 31 จุด แต่ในพื้นที่ อ.ท่าวุ้ง เป็นพื้นที่มีความเสี่ยงสูง นายนิวัฒน์  รุ่งสาคร ผวจ. จึงประกาศให้ ต.บ้านเบิก เป็นพื้นที่ควบคุมเข้มข้นพิเศษ  มีด่านตรวจสกัด 2 ด่าน กำหนดการเข้าออกของคนในหมู่บ้าน และให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังตัวเอง ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี