"เชียงราย"เบรกฟ้องคนนำโควิดเข้าประเทศหันฟื้นฟูท่องเที่ยวก่อน

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 กลุ่มเครือข่ายภาคเอกชน ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมและบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย กว่า 100 คน ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการตามมาตรฐาน SHA และร่วมหารือเกี่ยวกับผลกระทบเกี่ยว ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  รวมถึงการหารือมาตรการการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้นำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาเข้ารับฟังปัญหาจากภาคเอกชนในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องประชุมร้านอาหารท่าน้ำภูแล อ.เมือง จ.เชียงราย

นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสหพันธ์การท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. 2563 มีนักท่องเที่่ยวชาวไทยมาเยือน จ.เชียงราย ประมาณ 3.2 ล้านคน ลดลงกว่าปีก่อน 8.04% และชาวต่างชาติ 223,896 คน ลดลง77.61% ขณะที่ จ.เชียงราย มีห้องพักโรงแรม 538 แห่ง มีห้องพักรวม 16,604 ห้อง หลังเหตุการณ์การพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ ทำให้โรงแรมที่แจ้งผลกระทบเข้าไปตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.-3 ธ.ค.2563 ทันที 76 ราย ห้องพักถูกยกเลิก 2,994 ห้อง และกระทบมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันมีจำนวนมาก แม้แต่สายการบิน จำนวน 5 สายการบิน ก็มีการยกเลิก เช่น สายการบินนกแอร์ ที่ยกเลิกเที่ยว 3 ทุ่มในวันที่ 4 วันที่ 5 และวันที่ 31 ธ.ค.นี้ 

"นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. เป็นต้นมา ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวเกี่ยวเนื่องเป็นลูกโซ่ โดยเฉพาะการจองห้องพักที่หายไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงประมาณร้อยละ 40 เท่านั้น จึงมีการหารือเพื่อขอให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยเหลือโดยเฉพาะการกระตุ้นโครงการขนาดใหญ่ด้านการท่องเที่ยวเข้ามายังพื้นที่ เพื่อพื้นฟูสภาพการท่องเที่ยวและหามาตรการช่วยเหลือเกี่ยวกับ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพราะเกิดปัญหาไม่สามารถยกเลิกการจองได้

ด้าน ดร.อนุรัตน์ อินทร  ประธานหารค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า ประเด็นสำคัญเร่งด่วนในตอนนี้คือการพื้นฟูสภาพการท่องเที่ยว ทางจังหวัดเชียงรายจะมีการจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนกรณีที่ทางภาคเอกชนมีแนวคิดที่จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับผู้ลักลอบเขาเมืองและนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาในประเทศนั้น มีการเห็นด้วยและมีบางส่วนก็ไม่เห็นด้วย จึงเกรงจะกระทบกับการดำเนินการของทางจังหวัด จึงเห็นว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่จะต้องมีการพุดคุยกันอย่างรอบคอบก่อน แต่สิ่งที่จำเป็นต้องฟื้นการท่องเที่ยวและควบคุมโรคให้ได้ก่อนค่อยมีการพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จนถึงขณะนี้สถานการณ์การติดโควิด-19 ในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังไม่แรงกระเพี่ยมให้เกิดสถานการณ์กระทบการท่องเที่ยวที่รุนแรง เพราะส่วนใหญ่จะตรวจพบในสถานที่กักกันของรัฐ มีเพียงเคสเดียวที่ส่งผลบ้าง แต่เชื่อว่าหากพ้นหลัง 14 วันนับจากวันแพร่ระบาดคือ 29 พ.ย.2563 หากไม่พบการติดเชื้อเพิ่มสถานการณ์น่าจะคลี่คลาย ซึ่งทางกระทรวงฯ จะเร่งดำเนินการจัดโครงการเข้ามากระตุ้นในพื้นที่ โดยยกต้นแบบจาก จ.ระยอง หรือระยองโมเดล โดยจะเริ่มตั้งแต่หลังวันที่ 14 ธันวาคมเป็นต้นไป หรือและคาดว่าจะทำได้เต็มที่ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมเป็นต้นไป โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็จะรับช่วงต่อจากการะทรวงสาธารณสุขเรื่องการเยียวยา โดยส่งเสริมให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติ กิจกรรมประชุม สัมมนา งานต่างๆ การแสดงดนตรี ฯลฯ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 

"กรณีที่ผู้ประกอบการเสนอให้โครงการเราเที่ยวด้วยกันสามารถให้เลื่อนการจองและยังคงได้สิทธิรัฐจ่ายให้ 40% เหมือนเดิมนั้น ผมจะได้นำไปหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้ผ่อนผันซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถให้ได้ ส่วนข้อเสนออื่นๆ จะได้นำไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ฤดูท่องเที่่ยวของภาคเหนือยังมีอยู่จนถึงเดือน กุมภาพันธ์ เป็นอย่างน้อย ดังนั้นยังเหลือเวลาอีก 2 เดือนหากผ่านพ้นวันเวลาที่กำหนดไปแล้วตนเชื่อมั่นว่านักท่องเที่ยวและหน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ฯลฯ จะพากันมาใช้บริการที่ จ.เชียงราย จำนวนมากเหมือนเดิม นอกจากจะทางกระทรวงฯจะมีการดึงอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติเข้ามาช่วยในการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่ด้วย" นายพิพัฒน์ กล่าว