ในหลวงพระราชทานถุงยังชีพ 10,000 ชุด ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมนครศรีธรรมราช

นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนางอนุรี วิศิษฎ์วงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ตำบลเขาโร อ.ทุ่งสง พร้อมทั้งเยี่ยมให้กำลังใจนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 19 อ.ทุ่งสง มีว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอทุ่งสง พร้อมด้วยผู้นำท้องที่ท้องถิ่น รายงานสถานการณ์ ล่าสุดน้ำในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง ส่วนใหญ่ลดระดับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ส่วนที่ตำบลเขาโร น้ำยังท่วมสูง มีผู้ประสบภัย 4 หมู่บ้าน ประมาณ 1,500 คน ทางหน่วยทหารจากกองพันทหารช่างที่ 5 และกองพลทหารพัฒนาภาคที่ 4 นำโดยพลตรีสิรภพ ศุภวานิช ผู้บัญชาการกองพลทหารพัฒนา นำเรือท้องแบนในการอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยรวมทั้งการขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ พร้อมกำลังพลจัดตั้งโรงครัวในการประกอบอาหารสำเร็จรูปด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานถุงยังชีพ จำนวน 10,000 ชุด ผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งอำเภอทุ่งสง ซึ่งจังหวัดจะได้จัดพิธีมอบให้ผู้ประสบภัยที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 19 อ.ท่งสง เป็นจุดแรก ในวันที่ 4 ธันวาคม 2563 อีกทั้งได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ผ่านมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จำนวน 5,000 ชุด และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จำนวน 800 ชุด

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า พื้นที่ที่ประสบภัยมีทั้งหมด 23 อำเภอ มีผู้ประสบภัยทั้งหมด 184,000 ครัวเรือน ประชากร 525,000 คน ลักษณะที่ประสบภัยมีทั้ง 4 รูปแบบ คือ น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม สภาพที่เป็นน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันตอนนี้คลี่คลายลงในระดับหนึ่ง จะเหลือน้ำท่วมขังที่เป็นจุดที่ลุ่ม แต่มวลน้ำจำนวนหนึ่งก็ยังคงอยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอพระพรหม กำลังลงสู่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปากพนัง ใน 1-2 วันนี้ ในส่วนของมวลน้ำที่รับจากพัทลุง น้ำบางส่วนที่ลงสู่อำเภอจุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ และอำเภอชะอวด ได้ระบายน้ำลงสู่คลองพระราชดำริชะอวด-แพรกเมือง ซึ่งทำให้สามารถระบายลงสู่ทะเลได้รวดเร็วขึ้น

สำหรับในเขตพื้นที่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เรามีจุดอพยพผู้ประสบภัยทั้งหมด 10 จุด มีผู้อพยพประมาณเกือบ 2,000 คน ระดับน้ำลดลงประมาณ 10 - 15 เซนติเมตร แต่ยังมีน้ำท่วมขัง สายคลองที่ผ่านตัวเมืองนครศรีธรรมราช ทั้ง 5 สายคลอง ตั้งแต่คลองคูพาย คลองป่าเหล้า คลองสวนหลวง คลองนครน้อย คลองราเมศร์ จะลงสู่คลองท่าซัก ยังมีสภาพน้ำเชี่ยว น้ำล้นตลิ่งอยู่บางส่วน ในด้านทิศตะวันตกตอนนี้ได้ดูสถานการณ์ว่าน้ำจากคลองดินแดง อำเภอพิปูน มีน้ำล้นสปิลเวย์ตามปกติ ระดับน้ำยังอยู่ในระดับปกติไม่ได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากฝนไม่ตก ขณะที่ในพื้นที่อำเภอทุ่งสงที่ทุกคนเป็นห่วง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอทุ่งสงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะถุงยังชีพ การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลในเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชน โดยทุกภาคส่วนได้ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ทั้งในเรื่องของเส้นทางคมนาคมที่ตัดขาด

ในส่วนของสถานการณ์น้ำขณะนี้ แบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนฝั่งตะวันตก ซึ่งอำเภอทุ่งสงเป็นพื้นที่รับน้ำขณะนี้ยังเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังก่อนระบายลงสู่แม่น้ำตรัง ส่วนในฝั่งตะวันนอก ในพื้นที่อำเภอลานสกา พรหมคีรี ปริมาณน้ำเริ่มลดลง แต่จะไปท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จะเห็นได้ว่าคลองชะอวด-แพรกเมืองเป็นตัวอย่างที่ดีในการผันน้ำออกสู่ทะเล เพราะในการระบายน้ำออกสู่ทะเลเป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงเช้าระดับน้ำจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงบ่ายประมาณเวลา 14.00-15.00 น. ระดับน้ำจะเอ่ออยู่ระยะหนึ่ง เพราะน้ำทะเลหนุนทำให้การระบายน้ำออกสู่ทะเลยากขึ้น ทั้งนี้ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ของภาคส่วนต่าง ๆ แผนระยะสั้นในเบื้องต้นแบ่งออกเป็น 3 เรื่อง คือ 1.) การอพยพพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือในเรื่องของถุงยังชีพ อาหาร เครื่องดื่ม การอพยพสัตว์เลี้ยง และการดูแลทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน, เรื่องที่ 2 มีการตั้งป้ายบอกเส้นทางที่รถสามารถสัญจรไปมาได้ หรือป้ายบอกห้ามผ่าน และส่วนที่ 3 การเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป