posttoday

นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันยอมขอโทษรีวิวโรงแรมดังเกาะช้างเชิงลบ

08 ตุลาคม 2563

ตราด-นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันยอมขอโทษโรงแรมซีวิวเกาะช้างฟ้องหลังรีวิวผ่านเว็บไชต์เชิงลบยินดีทำตามเงื่อนไขแก้ไขข่าวแจ้งสื่อต่างประเทศ ผกก.เกาะช้างร่วมเป็นสักขีพยาน

กรณีโรงแรม ซีวิว เกาะช้าง แจ้งความดำเนินคดี นายเวสลีย์ บาร์นส์ ชาวอเมริกันข้อหาหมิ่นประมาท หลังจากรีวิวที่พักบนเว็บไซต์ท่องเที่ยวเชิงลบ ล่าสุด นายอัตพล สุวรรณจันทร์ ทนายความ ของนายเวสลีย์ บาร์นส์ได้นำลูกความ มาพบกับ นายพิชชา รัตนวงศ์ กรรมการบริษัท และตัวแทนของโรงแรมซีวิว เกาะช้าง พร้อมด้วยนายติณญ์ณภัทร มีเพชรอัฐมงคล ทนายความของฝ่ายโจทก์ เพื่อเจรจาหาข้อยุติ

ฝ่ายนายเวสลีย์ บาร์นส์ ยินดีขอโทษจนทำให้โรงแรมซีวิวเกาะช้างได้รับความเสียหาย โดยมีพ.ต.อ.กิตติ มาลีหวล ผกก.สภ.เกาะช้างร่วมเป็นสักขีพยายานและทั้งสองฝ่ายได้ทำบันทึกข้อตกลงในการยอมความไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนายติณญ์ณภัทร กล่าวว่า ยินดีที่จะยุติเรื่องทั้งหมด เพียงแต่คุณบาร์นต้องแสดงความจริงใจและแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ก่อขึ้น และพร้อมที่จะแก้ไขตามสมควร ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญถึงความถูกต้องภายใต้กฎหมายเป็นสำคัญด้วยและที่จะขาดเสียไม่ได้ คือ ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันของมนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเกิดเป็นชาติใดก็ควรที่จะได้รับความเคารพเสมอกัน

นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันยอมขอโทษรีวิวโรงแรมดังเกาะช้างเชิงลบ

ด้านนายเวสลีย์ บาร์นส์ ได้กล่าวคำขอบคุณ(ผ่านล่าม)ต่อผู้บริหารโรงแรมและผกก.สภ.เกาะช้างที่ยินดีรับคำขอโทษจากตนเองและพร้อมที่จะดำเนินตาม เงื่อนไขที่ได้หารือร่วมกันทั้งสองฝ่ายรวมทั้งทนายความทั้งสองฝ่ายด้วย

สำหรับข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย

1. กล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจต่อโรงแรมและพนักงานโดยต้องส่งให้ทุกสำนักข่าวที่ตีพิมพ์ข่าวนี้ทั้งหมดเช่น CNN, ABC, Daily Mail (แดรี่เมลล์), BBC, Insider (อินไซเดอร์), The Morning Call (เดอะ มอนิ่งคอล), The Sun, CBS, Independent (อินดีเพนเด้น), NBC, Fox, Reuters (รอยเตอร์), NYTimes (นิวยอร์คไทม์), The Guardian (เดอะ กาเดี้ยน), Bangkok Post (บางกอกโพส), AFP ด้วยข้อความว่า “ข้าพเจ้านายบาร์น ขอแสดงความเสียใจที่ได้รีวิวโฆษณาด้วยข้อความอันเป็นเท็จใส่ร้ายหมิ่นประมาทต่อโรงแรม ซีวิว เกาะช้าง ในทำนองว่าปฏิบัติต่อพนักงานเช่นทาสและพาดพิงถึงเชื้อชาติของพนักงานโรงแรม เปรียบเทียบและพาดพิงโรงแรมกับไวรัสโคโรน่าต่อเนื่องหลายต่อหลายครั้งนั้น ข้อความที่ข้าพเจ้ารีวิวทั้งหมดนั้นไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย แต่เกิดจากความคึกคะนองของข้าพเจ้าเอง บัดนี้ ข้าพเจ้านายบาร์นได้สำนึกผิดแล้วและได้มาขอโทษต่อโรงแรม ซึ่งโรงแรม ซีวิว เกาะช้าง และพนักงาน ก็ได้ให้อภัย และจะดำเนินการยุติคดีให้แก่ข้าพเจ้าต่อไป จึงขอขอบพระคุณโรงแรม ซึ่งโรงแรม ซีวิว เกาะช้าง และพนักงาน ข้าพเจ้าถือโอกาสนี้แจ้งข่าวให้เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป”

2. ทำหนังสือขอโทษไปยังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดตราดที่ก่อให้เกิดผลเสียทางการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด

3. ต้องแจ้งข้อเท็จจริงนี้ให้แก่สถานทูตอเมริกาทราบทั้งหมดด้วย

4. ต้องทำหนังสือประสานงานกับทริปแอดไวเซอร์ (TripAdvisor) ชี้แจงถึงการกระทำความความผิดของตนจนต้องถูกดำเนินคดี พร้อมขอให้ทริปแอ๊ดไวเซอร์ไม่ติดป้ายเตือน Red Badge บนหน้าเพจโรงแรมซีวิว เกาะช้าง โดยขอให้ทริปแอ๊ดไวเซอร์ออกเอกสารยืนยันว่าจะไม่ติดป้ายเตือนดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ นายเวสลีย์ บาร์นส์ ยินดีที่จะดำเนินการตามข้อเสนอนี้ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2563 เมื่อดำเนินการเสร็จทางโรงแรมจะถอนคำร้องทุกข์ทันที

นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันยอมขอโทษรีวิวโรงแรมดังเกาะช้างเชิงลบ

ด้าน พ.ต.อ.กิตติ กล่าวว่า ยินดีที่เหตุการณ์นี้ได้ข้อยุติ เพราะคดีนี้เป็นคดีที่ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ในข้อหาหมิ่นประมาทที่สามารถยอมความกันได้ส่วนเรื่องกระบวนการยุติธรรมไทยหลังการเข้าไปจับกุมตัวผู้ต้องหาได้นำตัวมาที่สภ.เกาะช้าง

"แต่เนื่องจากเป็นวันศุกร์ตำรวจมีเวลาควบคุมตัวเพียง 24 ชม.จึงได้ดำเนินการส่งศาลในเช้าวันเสาร์ที่มีเวลาทำการครึ่งวัน แต่ภรรยาไม่สามารถนำหลักทรัพย์หรือนายประกันที่นำมาแสดงได้ทันจึงทำให้ต้องนอนอยู่ในเรือนจำ 2 วัน ซึ่งผู้ต้องหาอาจจะไม่เข้าใจว่าคดีหมิ่นประมาททำไมต้องถูกคุมขัง จึงได้อธิบายให้เข้าใจแล้ว ต่อมาในวันจันทร์ ภรรยาของผู้ต้องหานำเงิน 1 แสนมาประกันตัวจึงสามารถออกจากเรือนจำได้"