posttoday

ภาคประชาชนร้องสอบจัดซื้อจัดจ้างมท.เอื้อประโยชน์นักการเมือง-ผู้รับเหมา

27 กันยายน 2563

กาฬสินธุ์-เครือข่ายภาคประชาชนยื่นหนังสือให้สอบการจ้างงานบรรเทาภัยแล้งและน้ำท่วมจังหวัดกาฬสินธุ์ งบประมาณเกือบ 100 ล้านบาท เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายการเมืองและผู้รับเหมารายใหญ่มีค่าตอบแทนกว่า 30 เปอร์เซ็นต์จ่ายให้ 

เมื่อวันที่ 27 ก.ย.นายธนรรชน พหลทัพ ผู้รับรางวัลมูลนิธิต่อต้านการทุจริต (รางวัลของนายวิชา มหาคุณ) เปิดเผยว่า ตนได้รับหนังสือร้องเรียนจากเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ตรวจสอบหลังจากได้รับการรายงานว่า มีการจ้างงานบรรเทาภัยแล้งและน้ำท่วมจังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินการโดยผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มีข้อสงสัยว่ามีการดำเนินการไม่เปิดเผยไม่โปร่งใส มีการรวมงานให้กับผู้รับจ้างรายหนึ่งรายใด เป็นพฤติกรรมของนักการเมืองกับข้าราชการประจำเป็นต้นเหตุของการทุจริตมีการสมยอมงาน มีการติดสินบนกันเพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้งานเพียงเจ้าเดียว ขัดกับนโยบายของรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายให้กระจายงานให้เกิดรายได้ในท้องถิ่นกับผู้ประกอบการโดยทั่วถึงกัน ในสภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ ทางมูลนิธิฯจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เท่าที่จะทำได้ เบื้องต้นสรุปว่า การดำเนินการจ้างโดยวิธีตกลงราคาเป็นวิธีที่เปิดช่องทางในการทุจริตมากที่สุด โดยเฉพาะวงเงิน 5 แสนบาท ผู้ที่มีหน้าที่ดำเนินงานของรัฐแต่ละแห่งที่ได้รับงบประมาณไม่เปิดโอกาสให้กับผู้รับจ้าง ผู้ประกอบการในท้องถิ่น ที่มีศักยภาพที่จะดำเนินการตามโครงการต่างๆได้ตามนโยบายของรัฐบาล หากกระจุกไปที่ใดที่หนึ่งเจ้าใดเจ้าหนึ่งมีข้อสงสัยเบื้องต้นว่า น่าจะมีการสมยอมกัน การสมยอมเป็นเหตุให้เกิดงานที่ไม่ได้คุณภาพ ผู้เสียหายก็คือประชาชน ประชาชนจะต้องได้รับงานที่มีคุณภาพเต็มคุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชน จึงจะขอเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรง ไม่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง เป็นคนกลาง โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนักการเมืองที่ภาคประชาชนได้กล่าวอ้างอิงได้ใช้อำนาจนอกระบบก้าวก่ายหรือสมยอมกับข้าราชการประจำ และทางมูลนิธิฯ ก็จะดำเนินการต่อไป

ภาคประชาชนร้องสอบจัดซื้อจัดจ้างมท.เอื้อประโยชน์นักการเมือง-ผู้รับเหมา

นายปราการ อุตส่าห์ เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือร้องทุกข์จากผู้ประกอบการรับเหมาในพื้นที่ มีความเดือดร้อนจากกรณีที่รัฐบาลได้กำหนดโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม(กระทรวงมหาดไทย) โดยมีนโยบายเพื่อกระจายงานให้กับผู้รับเหมารายย่อยในพื้นที่ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง จากภาวะเศรษฐกิจการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยห้ามผูกขาดแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง โดยจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับงบประมาณร่วม 100 ล้านบาท ส่วนมากผู้รับเหมารายใหญ่เป็นผู้ได้งานจากผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยอาศัยอำนาจจาก รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยคนหนึ่งสั่งการผ่านมายังปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดให้นายอำเภอทุกอำเภอ โดยนายอำเภอทำสัญญาจ้างงานกับผู้รับเหมาที่เอื้อประโยชน์แก่ตน ทำสัญญาจ้างทั่วทั้งจังหวัด โดยมีผลประโยชน์ค่าตอบแทนให้กว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ของงบประมาณทั้งหมด โดยทางเครือข่ายจึงต้องออกมาขอความเป็นธรรมและการติดตามการใช้เงินงบประมาณอย่างโปร่งใส ให้คุ้มค่าเพราะเงินทุกบาทเป็นเงินภาษีของประชาชน

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เบื้องต้นทราบว่าตนได้สั่งการลงไปอำเภอดำเนินการตามขั้นตอนตามวิธีการที่ทางส่วนกลางได้แจ้งมา โดยตนไม่ได้มีการสั่งหรือกำชับให้เอางานให้ใคร โดยมีแต่กำชับให้ทำงานตามระเบียบ ซึ่งไม่มีการให้โควต้ากับผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งอย่างที่กล่าวอ้างมา

ภาคประชาชนร้องสอบจัดซื้อจัดจ้างมท.เอื้อประโยชน์นักการเมือง-ผู้รับเหมา

ภาคประชาชนร้องสอบจัดซื้อจัดจ้างมท.เอื้อประโยชน์นักการเมือง-ผู้รับเหมา